หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมพรุ่งนี้! 'ประวิตร' นัด ก.ตร.ถก วาระร้อน นรต.36 ขอสำเนาฯ ไปฟ้องศาลปกครอง

พรุ่งนี้! ‘ประวิตร’ นัด ก.ตร.ถก วาระร้อน นรต.36 ขอสำเนาฯ ไปฟ้องศาลปกครอง

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)นัดประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 12/2561 ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.2561 เวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุมศรียานนท์ อาคาร 1 ชั้น 2 ตร.โดยมีวาระเพื่อพิจารณาที่น่าสนใจ คือ วาระแรก:เรื่องการขึ้นเงินเดือนของข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือน ระดับ ส.6 ขึ้นไป วาระเรื่อง : พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ ผกก.สภ.ศรีสมเด็จ ภ.จว.ร้อยเอ็ด ร้องทุกข์ กรณีที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้อง จากกรณีที่ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ แล้วผบก.ภ.จว.บึงกาฬ คำสั่งที่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำ ศปก.ภ.จ.บึงกาฬ จึงได้ทำหนังสือร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้าย และเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้องตามกฎ ระเบียบอนุ ก.ตร.พิจารณาถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของผู้ร้องทุกข์แล้วก็ไม่ปรากฏเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้พะยูง จึงไม่สมเหตุสมผล โดยต่อมาได้ฟ้องต่อศาลทุจริตกลาง ต่อมาศาลทุจริตกลางได้มีคำพิพากษา ว่า ผู้บังคับบัญชามีความผิดตาม มาตรา 157 ตามฟ้อง วาระเรื่อง : การแก้ใขปรับปรุงกฏ ก.ตร.ว่าด้วยการโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ หรือการโอนพนักงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมาเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 กฏ ก.ตร.ว่าด้วยการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการหรือการบรรจุแต่งตั้งพนักงานองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งออกจากราชการ หรือออกจากงานไปแล้ว กลับเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 และกฏ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีแต่งตั้งยศ พ.ศ.2554 , วาระเรื่อง : การกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจ และการปรับปรุงคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง วาระเรื่อง : การขอขยายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ สว. ถึง รอง ผบก.วาระประจำปี 2561 ออกไปอีก 1 เดือน และวาระเรื่อง : พล.ต.ต.ศรายุทธ พูลธัญญะ รอง ผบช.ตชด.และ พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร บช.ภ.8 ขอสำเนารายงานประชุม ก.ตร.เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบก.ถึง รอง ผบ.ตร.วาระประจำปี 2561

มีรายงานว่า สำหรับวาระที่พล.ต.ต.ศรายุทธ และพ.ต.อ.พรพันธ์ ขอสำเนาการประชุมจาก ก.ตร.ในครั้งนี้นั้น เพื่อนำไปเป็นหลักฐานฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้มีหนังสือ พิเศษ/2561 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เรื่องร้องทุกข์การแต่งตั้งตามมติ ก.ตร.ถึงประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)โดยในหนังร้องทุกข์ดังกล่าวระบุว่า “คณะกรรม ก.ตร.ทุกท่านทราบดีแล้วว่า หลักการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามลำดับอาวุโสของสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับนี้เป็นการกำหนดไม่ถูกต้อง ประกอบกับในส่วนของตำรวจ มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดลำดับอาวุโสใว้โดยเฉพาะ และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ชุดปัจุบันนี้ก็ได้ใช้ในการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งข้าราชการตำรวจมาตลอด ย่อมทราบดีว่าการใช้หลักอาวุโสตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้นั้นไม่ถูกต้อง ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547,ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 89/2557และระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยการกำหนดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการรักษาราชการแทน พ.ศ.2547 แต่คณะกรรมข้าราชการตำรวจตามข้างต้น ได้กระทำร่วมกันมีมติให้ข้าราชการตำรวจที่มิได้อยู่ในลำดับอาวุโสที่มีสิทธิ์ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้ที่ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น,ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงขึ้น ได้รับอัตราเงินเดือนสูงขึ้น,ได้เงินตำแหน่งสูงขึ้น,และทำให้เกิดผลร้ายและเสียหายต่อข้าราชการตำรวจที่อยู่ในลำดับอาวุโสที่มีสิทธิได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ก.ตร.ชุดดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้มีมติเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ดังเช่น ข้าพเจ้าที่มีลำดับอาวุโสลำดับ รองผู้บังคับการลำดับที่ 41 จากประกาศลำดับอาวุโสระดับรองผู้บังคับการทั้งสิ้น 485 ลำดับ(485 นาย) โดยความเสียหายนั้นทำให้ไม่ได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บังคับการ จึงทำให้เสียสิทธิ์ตามข้างต้น ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ มีตำแหน่งผู้บังคับว่าง 85 ตำแหน่ง(รวบรวมตามมติ ก.ตร.ถึง 2 ครั้งคือ เมื่อ 27 ก.ย.2561 และเมื่อ 2 ต.ค.2561) โดยตนอยู่ในประกาศลำดับอาวุโสที่ 41 ซึ่งหากใช้หลักเกณฑ์หลักอาวุโสตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย มาตรา 260 วรรค 3 ประกอบหลักกฏหมายและระเบียบตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงขอร้องทุกข์ ต่อ คณะ ก.ตร.ดังนี้

1.ขอให้มติ ก.ตร.ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงระดับ ผู้บังคับการ ในวันที่ 27 กันยายน 2561 และในวันที่ 2 ตุลาคม 2561 เป็นโมฆะ(ยกเลิกมติ ก.ตร.ทั้ง 2 ครั้ง)
2.ขอให้ ก.ตร.มีมติใหม่ โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งให้ข้าพเจ้าและ รองผู้บังคับการ ผู้มีอาวุโสสูงสุดลงมาตามลำดับจนครบตำแหน่งว่าง(จากลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่ 85) “หนังสือร้องทุกข์ฉบับดังกล่าวระบุ”

ในขณะเดียวกันมีรายงานข่าวอีกว่า พล.ต.ต.ศรายุทธพูลธัญญะ รรท.ผบช.ตชด.ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ ที่ 0012.43/0498 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ถึง ผบ.ตร.,ก.ตร. โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า :”ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.วาระประจำปี 2561 โดย ก.ตร.ใช้หลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 25 ก.ค.2561 ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 258 ง.(4)และมาตรา 260 โดยหลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้หลักอาวุโสร้อยละ 33 ส่วนที่เหลือร้อยละ 67 ไม่ได้ใช้หลักอาวุโส ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดใว้หลักเกณฑ์เดียว คือหลักอาวุโส
จึงมีความประสงค์ขอให้มติ ก.ตร.ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.ในวันที่ 27 ก.ย.2561 และวันที่ 2 ตุลาคม 2561 เป็นโมฆะ และขอให้มีมติใหม่ โดยให้แต่งตั้งผู้ร้องทุกข์เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามหลักอาวุโสสูงสุดลงมาจนครบตำแหน่งว่าง”

ทั้งนี้ ยังมีรายงานอีกว่า เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 61 ที่ผ่านได้มี นายตำรวจอีก 2 นายระดับ รอง ผบก.คือ พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย รอง ผบก.อก.สกบ และ พ.ต.อ วันชัย อยู่แสง รอง ผบก. มน.สนง.ก.ตร.ได้ร้องทุกข์ต่อ ประธาน ก.ตร. เดี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2561 ระดับ ผบก.ถึง รอง ผบ.ตร.อีกด้วย

สำหรับ พล.ต.ต.ศรายุทธ พูลธัญญะ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 36 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.คนปัจุบัน เคยดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผบช.ภ.1 ,รอง ผบช.ภ.7 ,รอง ผบช.ภ.8, โดยคำสั่งล่าสุด ถูกโยกมาดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.ตชด.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img