เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)นัดประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 12/2561 ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.2561 เวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุมศรียานนท์ อาคาร 1 ชั้น 2 ตร.โดยมีวาระเพื่อพิจารณาที่น่าสนใจ คือ วาระแรก:เรื่องการขึ้นเงินเดือนของข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือน ระดับ ส.6 ขึ้นไป วาระเรื่อง : พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ ผกก.สภ.ศรีสมเด็จ ภ.จว.ร้อยเอ็ด ร้องทุกข์ กรณีที่ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้อง จากกรณีที่ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ แล้วผบก.ภ.จว.บึงกาฬ คำสั่งที่ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำ ศปก.ภ.จ.บึงกาฬ จึงได้ทำหนังสือร้องทุกข์ต่อ ก.ตร.ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้าย และเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้องตามกฎ ระเบียบอนุ ก.ตร.พิจารณาถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของผู้ร้องทุกข์แล้วก็ไม่ปรากฏเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้พะยูง จึงไม่สมเหตุสมผล โดยต่อมาได้ฟ้องต่อศาลทุจริตกลาง ต่อมาศาลทุจริตกลางได้มีคำพิพากษา ว่า ผู้บังคับบัญชามีความผิดตาม มาตรา 157 ตามฟ้อง วาระเรื่อง : การแก้ใขปรับปรุงกฏ ก.ตร.ว่าด้วยการโอนข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตำรวจ หรือการโอนพนักงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมาเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 กฏ ก.ตร.ว่าด้วยการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการหรือการบรรจุแต่งตั้งพนักงานองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งออกจากราชการ หรือออกจากงานไปแล้ว กลับเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2547 และกฏ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีแต่งตั้งยศ พ.ศ.2554 , วาระเรื่อง : การกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจในสถานีตำรวจ และการปรับปรุงคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง วาระเรื่อง : การขอขยายแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ สว. ถึง รอง ผบก.วาระประจำปี 2561 ออกไปอีก 1 เดือน และวาระเรื่อง : พล.ต.ต.ศรายุทธ พูลธัญญะ รอง ผบช.ตชด.และ พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร บช.ภ.8 ขอสำเนารายงานประชุม ก.ตร.เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบก.ถึง รอง ผบ.ตร.วาระประจำปี 2561
มีรายงานว่า สำหรับวาระที่พล.ต.ต.ศรายุทธ และพ.ต.อ.พรพันธ์ ขอสำเนาการประชุมจาก ก.ตร.ในครั้งนี้นั้น เพื่อนำไปเป็นหลักฐานฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้มีหนังสือ พิเศษ/2561 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เรื่องร้องทุกข์การแต่งตั้งตามมติ ก.ตร.ถึงประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)โดยในหนังร้องทุกข์ดังกล่าวระบุว่า “คณะกรรม ก.ตร.ทุกท่านทราบดีแล้วว่า หลักการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามลำดับอาวุโสของสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับนี้เป็นการกำหนดไม่ถูกต้อง ประกอบกับในส่วนของตำรวจ มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดลำดับอาวุโสใว้โดยเฉพาะ และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ชุดปัจุบันนี้ก็ได้ใช้ในการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งข้าราชการตำรวจมาตลอด ย่อมทราบดีว่าการใช้หลักอาวุโสตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้นั้นไม่ถูกต้อง ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547,ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 89/2557และระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยการกำหนดลำดับอาวุโสของข้าราชการตำรวจในการรักษาราชการแทน พ.ศ.2547 แต่คณะกรรมข้าราชการตำรวจตามข้างต้น ได้กระทำร่วมกันมีมติให้ข้าราชการตำรวจที่มิได้อยู่ในลำดับอาวุโสที่มีสิทธิ์ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เป็นผู้ที่ได้รับเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น,ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงขึ้น ได้รับอัตราเงินเดือนสูงขึ้น,ได้เงินตำแหน่งสูงขึ้น,และทำให้เกิดผลร้ายและเสียหายต่อข้าราชการตำรวจที่อยู่ในลำดับอาวุโสที่มีสิทธิได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ก.ตร.ชุดดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้มีมติเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ดังเช่น ข้าพเจ้าที่มีลำดับอาวุโสลำดับ รองผู้บังคับการลำดับที่ 41 จากประกาศลำดับอาวุโสระดับรองผู้บังคับการทั้งสิ้น 485 ลำดับ(485 นาย) โดยความเสียหายนั้นทำให้ไม่ได้รับเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็นผู้บังคับการ จึงทำให้เสียสิทธิ์ตามข้างต้น ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ มีตำแหน่งผู้บังคับว่าง 85 ตำแหน่ง(รวบรวมตามมติ ก.ตร.ถึง 2 ครั้งคือ เมื่อ 27 ก.ย.2561 และเมื่อ 2 ต.ค.2561) โดยตนอยู่ในประกาศลำดับอาวุโสที่ 41 ซึ่งหากใช้หลักเกณฑ์หลักอาวุโสตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย มาตรา 260 วรรค 3 ประกอบหลักกฏหมายและระเบียบตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงขอร้องทุกข์ ต่อ คณะ ก.ตร.ดังนี้
1.ขอให้มติ ก.ตร.ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงระดับ ผู้บังคับการ ในวันที่ 27 กันยายน 2561 และในวันที่ 2 ตุลาคม 2561 เป็นโมฆะ(ยกเลิกมติ ก.ตร.ทั้ง 2 ครั้ง)
2.ขอให้ ก.ตร.มีมติใหม่ โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งให้ข้าพเจ้าและ รองผู้บังคับการ ผู้มีอาวุโสสูงสุดลงมาตามลำดับจนครบตำแหน่งว่าง(จากลำดับที่ 1 ถึง ลำดับที่ 85) “หนังสือร้องทุกข์ฉบับดังกล่าวระบุ”
ในขณะเดียวกันมีรายงานข่าวอีกว่า พล.ต.ต.ศรายุทธพูลธัญญะ รรท.ผบช.ตชด.ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ ที่ 0012.43/0498 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ถึง ผบ.ตร.,ก.ตร. โดยหนังสือดังกล่าวได้ระบุว่า :”ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.วาระประจำปี 2561 โดย ก.ตร.ใช้หลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 25 ก.ค.2561 ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 258 ง.(4)และมาตรา 260 โดยหลักเกณฑ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้หลักอาวุโสร้อยละ 33 ส่วนที่เหลือร้อยละ 67 ไม่ได้ใช้หลักอาวุโส ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดใว้หลักเกณฑ์เดียว คือหลักอาวุโส
จึงมีความประสงค์ขอให้มติ ก.ตร.ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ รอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.ในวันที่ 27 ก.ย.2561 และวันที่ 2 ตุลาคม 2561 เป็นโมฆะ และขอให้มีมติใหม่ โดยให้แต่งตั้งผู้ร้องทุกข์เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามหลักอาวุโสสูงสุดลงมาจนครบตำแหน่งว่าง”
ทั้งนี้ ยังมีรายงานอีกว่า เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 61 ที่ผ่านได้มี นายตำรวจอีก 2 นายระดับ รอง ผบก.คือ พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย รอง ผบก.อก.สกบ และ พ.ต.อ วันชัย อยู่แสง รอง ผบก. มน.สนง.ก.ตร.ได้ร้องทุกข์ต่อ ประธาน ก.ตร. เดี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2561 ระดับ ผบก.ถึง รอง ผบ.ตร.อีกด้วย
สำหรับ พล.ต.ต.ศรายุทธ พูลธัญญะ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 36 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ ผบ.ตร.คนปัจุบัน เคยดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผบช.ภ.1 ,รอง ผบช.ภ.7 ,รอง ผบช.ภ.8, โดยคำสั่งล่าสุด ถูกโยกมาดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.ตชด.