“อรรถกร” แจงสภา ก.เกษตรฯ เดินหน้าลดต้นทุนอาหารสัตว์ เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นแทนการนำเข้า ยันจุดยืนปกป้องเกษตรกรไทย

300

รัฐสภา วันที่ 17 ก.ค.เวลา นางฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม(กธ.) เรื่องต้นทุนอาหารเลี้ยงสัตว์มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีความยากลำบาก ขอทราบแนวทางในการลดต้นทุนอาหารสัตว์ของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งนายอรรถกร กล่าวชี้แจงว่า กระทรวงมุ่งเน้นในการลดต้นทุนการผลิตสำหรับเกษตรกร เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมากขึ้น โดยอาหารสัตว์ในประเทศไทยหลักๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ อาหารข้น เช่น อาหารเม็ดและอาหารผง ซึ่งผลิตโดยภาคเอกชนเพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพ และอาหารหยาบ เช่น หญ้าสด หญ้าแห้ง หรือกากผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ เช่น ข้าวโพด ซึ่งส่วนผสมจะแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละพื้นที่

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรทุกสาขา ทั้งชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ชาวปศุสัตว์ และชาวประมง โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินโครงการ ‘หน่วยให้บริการจัดการอาหารสัตว์เคลื่อนที่’ ซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำและบริการด้านสัดส่วนอาหารสัตว์ที่เหมาะสมถึงหน้าฟาร์ม โดยเน้นการใช้วัสดุเหลือใช้ในพื้นที่เป็นหลัก สิ่งเหล่านี้พิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ศูนย์บริการอาหารสัตว์ของกรมปศุสัตว์เปิดให้เกษตรกรสามารถนำวัตถุดิบมาใช้เครื่องจักรของศูนย์เพื่อผลิตอาหารสัตว์ได้ โดยบริการนี้ครอบคลุมเกษตรกร กลุ่มต่างๆ และวิสาหกิจ แม้จะยอมรับว่าบางพื้นที่อาจต้องปรับปรุงการให้บริการ ภาคปศุสัตว์ยังคงพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบบางประเภท ซึ่งเป็นภารกิจหลักในการลดการนำเข้าและเน้นการปลูกพืชอาหารสัตว์ในประเทศ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะพยายามเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกพืชอาหารสัตว์อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ รมว.เกษตรฯ ยังกล่าวถึงทีมเจรจาภาษีกับสหรัฐฯของประเทศไทย ที่เงื่อนไขบางข้ออาจจะกระทบกับเกษตรกรว่า กระทรวงให้ความสำคัญสูงสุดต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรในทุกมิติ จะไม่ยอมให้ชาวเกษตรกร โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู วัว ปลา ไก่ หรือพืชบางชนิด ต้องรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เราให้ความร่วมมือกับทีมเจรจาน้อยก็ตาม นี่คือจุดยืนที่กระทรวงเกษตรฯที่ยึดมั่นในการทำงาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทีมเจรจาของไทยจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์และปกป้องอธิปไตยของประเทศได้