“ในห้วงที่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อยู่ในอาการซวนเซ เพราะนายกรัฐมนตรีถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และขีดเส้นให้แก้ต่างที่ถูกกล่าวหาภายใน 15 วัน ในจังหวะนี้บรรดารัฐมนตรีคงต้องเร่งปั้นผลงานที่ทำได้ในระยะสั้นให้ประชาชนรู้สึกสัมผัสได้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนจริง“
งานที่ทำได้ทันที ทำได้จริง โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานถึง 3 เดือน นั่นคือ ความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนต้องลดลง คดีอาชญากรรมต่าง ๆ ทั้งลัก วิ่ง ชิง ปล้น ต้องถูกจัดการแบบฉับพลัน รวมถึงการพนันทุกชนิด โดยเฉพาะการพนันออนไลน์ ถูกจัดการอย่างเป็นระบบ
ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องเป็นคีย์แมนในการขับเคลื่อนผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นายภูมิธรรมกำกับดูแลโดยอัตโนมัติในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี
ปัญหาที่ยกมาล้วนแต่อยู่รอบกายและกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทุกวัน อย่างกรณีการแพร่ระบาดของยาเสพติด นายภูมิธรรมรับรู้เป็นอย่างดีว่าแม้มีผลจับกุมจำนวนมาก แต่ประชาชนไม่มีความรู้สึกเลยว่ายาเสพติดลดลง
ในการประชุมมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และข้าราชการระดับสูงมีทั้งหมด 9 ข้อ ในข้อที่ 2 นายภูมิธรรมขีดเส้นว่า 3 เดือนแรก แก้ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องทำให้ได้ เป็นรูปธรรม ทำให้ครบวงจร เอกซเรย์ถึงหมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด และวัดประสิทธิภาพของข้าราชการผ่านปัญหานี้
ถ้ามองถึงระยะเวลาที่ให้ บวกกับการขับเคลื่อนนโยบายที่ผ่านมา ถือว่ายาวไป เพราะความจริงแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมีแผนงานอยู่แล้ว เนื่องจากรัฐบาลได้ยกเป็นวาระแห่งชาติแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมา ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญที่จะขับเคลื่อน ทำให้ชาวบ้านถึงรู้สึกว่ายาเสพติดไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
ดังนั้น เพื่อให้เห็นผลงานโดยเร็ว ควรขีดเส้นแค่ 10 – 15 วันก็พอ เพราะแต่ละจังหวัดล้วนมีกลไกที่จะขับเคลื่อนอยู่แล้ว เพียงแต่นายภูมิธรรมต้องติวเข้มทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฯ ให้ประสานความร่วมมือกันทำงานไปพร้อม ๆ กัน
ทั้งผู้ว่าฯ และผู้บังคับการฯ ต่างมีกำลังคนที่จะขับเคลื่อนงานอยู่แล้ว โดยผู้ว่าฯ ขับเคลื่อนงานผ่านปลัดอำเภอ นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล นายกเทศมนตรี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และอาสาสมัครฯ เป็นต้น ผู้บังคับการฯ มีกำลังตำรวจกระจายอยู่ทุกโรงพัก มีชุดปฏิบัติการพิเศษ มีกองกำกับการสืบสวนจังหวัดฯ และตำรวจบ้าน เป็นต้น
“แขนขาเหล่านี้ถ้าทำงานสอดประสานกันจริง ๆ สามารถสยบภัยอาชญากรรมประเภทต่าง ๆ และภัยยาเสพติดได้อย่างแน่นอน แต่ที่ล้มเหลวจนประชาชนรู้สึกระอา เพราะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ไม่ได้เอาใจใส่ที่จะแก้ปัญหาเท่าที่ควร“
อดีตที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่กล้าที่จะสั่งการให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ และนักการเมืองท้องถิ่นเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ และไม่ได้มีการคาดโทษแต่อย่างใด สาเหตุเกรงว่าถ้าคุมเข้มจนเกินไป จะถูกสวนกลับว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ เพราะช่วงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยถูกใช้เปลืองที่สุด
ดังนั้น ถ้านายภูมิธรรมอยากกู้ศรัทธาให้รัฐบาล ต้องเร่งปั้นผลงานที่สามารถทำได้ทันที นั่นคือ การแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จัดการกับภัยอาชญากรรมทุกชนิด หยุดการแพร่ระบาดของยาเสพติดและการพนันออนไลน์ เป็นต้น ถ้าจัดการจนชาวบ้านใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติสุขได้ เชื่อว่าผลที่สำเร็จนี้จะเป็นเกราะป้องกันให้รัฐบาลฝ่ามรสุมต่าง ๆ ได้อย่างฉลุย เพราะปัญหาดังกล่าวถูกละเลยจนกลายเป็นความชาชินหรือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันไปแล้ว
แนวทางที่จะแก้ปัญหานี้บรรลุผลทำได้ไม่ยาก เพียงแต่นายภูมิธรรมยืนกำกับเอง พร้อมให้คุณและให้โทษกับผู้ปฏิบัติในทันที ตัวอย่างเช่น หากนอกหน่วยเข้าจับกุมบ่อนพนันออนไลน์ หรือบุกตรวจสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ปล่อยให้วัยรุ่นเข้าไปตั้งวงมั่วสุมยาเสพติด นายภูมิธรรมจัดหนักทั้งผู้ว่าฯ และผู้บังคับการฯ สั่งไปช่วยราชการแล้วตั้งกรรมการสอบสวน หากผิดลงโทษทันที ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีคนทำงาน เพราะแต่ละจังหวัดมีรองผู้ว่าฯ และรองผู้บังคับการฯ พร้อมที่จะทำงานสนองนโยบายอยู่แล้ว
หรือกรณีทางจังหวัดจัดชุดไปจับกุมแหล่งค้ายาเสพติดหรือบ่อนการพนันในพื้นที่ นายภูมิธรรมต้องสั่งกำชับให้ผู้ว่าฯ เด้งนายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่มีหน้าที่รับผิดชอบ และสั่งให้ผู้บังคับการฯ เด้งหัวหน้าโรงพัก เก็บกรุ ตั้งกรรมสอบสวน หากมีความผิดลงโทษทันทีแบบเชือดไก่ให้ลิงดู แนวทางนี้ไม่เคยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนไหนกล้าใช้ เพราะกลัวเข้าทำนองหยิกเล็บเจ็บเนื้อ
ดังนั้น คงต้องวัดใจว่านายภูมิธรรมกล้าที่จะใช้มาตรการทำนองนี้หรือไม่ หากกล้าใช้ รับรองได้ว่าปัญหาต่าง ๆ จะเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้งผู้ว่าฯ และผู้การฯ ต้องคุมสภาพทุกอย่างในจังหวัดได้อยู่แล้ว และผลดีนอกจากจะตกกับประชาชนแล้วยังสร้างผลงานให้รัฐบาลแบบเต็ม ๆ อีกด้วย !!!
