บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) ประกาศผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนมีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 860.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.85% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน และกำไรสุทธิ 37.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.29% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน จากการขยายตัวธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งทางทะเล ทางบก และอากาศ ด้านผู้บริหาร “ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์” ระบุบอร์ดมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.045 บาท/หุ้น ล่าสุดจับมือ “ซีกัลล์ ซัพพลาย เชน” หนึ่งในผู้นำการให้บริการธุรกิจขนส่งสินค้าผ่านชายแดนไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ทางรถบรรทุก เช่าอาคารสถานที่ ศูนย์จัดเก็บสินค้า และมีแผนต่อยอดการส่งสินค้าข้ามแดนเพิ่มขึ้น เล็งบุกตลาดCLMV พร้อมเดินตามแผนขยายการลงทุน เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้า ในเขตEEC ตอกย้ำรายได้ปีนี้แตะ 1,000 ล้านบาท

ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2561 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 860.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 706.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 37.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 35.19 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2561 บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการ 311.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 234.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.29 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่บริษัทฯมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น รวมถึงปริมาณงานทั้งในประเทศ และ ระหว่างประเทศ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้บริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ส่งผลให้อัตราการเติบโต จากยอดขายและบริการ จาก3 ธุรกิจหลัก 1) ธุรกิจบริการขนส่งทางเรือ ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้น 22.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2) ธุรกิจบริการขนส่งทางบก จากการขยายจำนวนรถที่ให้บริการ และเส้นทางขนส่งแบบข้ามพรมแดน ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 8.30 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3) การเติบโตของธุรกิจการจัดการขนส่งทางอากาศ ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 104.41 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจากอัตราการเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 20%

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลประจำงวดปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) ในอัตรา 0.045 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 2.8% เทียบกับราคาปิดวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยจะมีการกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 28 พฤศจิกายน และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 27 พฤศจิกายน เพื่อจ่ายปันผลในวันที่ 12 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด บริษัทฯได้เซ็นสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ กับกลุ่มบริษัท ซีกัลล์ ซัพพลาย เชน (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติมาเลเซีย หนึ่งในผู้นำการให้บริการธุรกิจขนส่งสินค้าผ่านชายแดนไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ทางรถบรรทุก ซึ่งได้มีการเช่าอาคารสถานที่ศูนย์จัดเก็บสินค้า บนพื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการกระจายสินค้า และการขนส่งข้ามแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งในเบื้องต้น บริษัทฯจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ จากการเช่าพื้นที่ของ บริษัท ซีกัลล์ ซัพพลาย เชน ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ เป็นต้นไป และจะรับรู้รายได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ไตรมาส 1/ 2562

ทั้งนี้ นอกจากความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายตลาดไปในกลุ่มประเทศ CLMV อาทิ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้อีกด้วย ซึ่งการที่ SONIC มี strategic partner ที่ดีอย่าง กลุ่มบริษัท ซีกัลล์ ซัพพลาย เชน (ไทยแลนด์) จำกัด เข้ามาในครั้งนี้จะเป็นการเสริมทัพทางธุรกิจให้กับบริษัทฯได้เป็นอย่างดี

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน ตามแผนที่บริษัทฯวางไว้ ไม่ว่าจะเป็น 1.ลงทุนเพิ่มจำนวนรถบรรทุกหัวลาก หางลากและรถบรรทุก เพื่อขยายการให้บริการธุรกิจขนส่งทางบกและการขนส่งข้ามชายแดน (Cross-border transport) ให้มีความครอบคลุมกว้างขวางมากยิ่งขึ้น 2. การลงทุนปรับปรุงอาคารและพื้นที่ศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าให้มีความทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าและความรวดเร็วในการขนส่งและการให้บริการ 3. การลงทุนซื้อที่ดินและอาคารพาณิชย์ เพื่อดำเนินสาขาแหลมฉบัง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านค่าเช่าในระยะยาว และ ลงทุนพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดเก็บวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ ที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และยังเป็นการรองรับการขนส่งด้านโลจิสติกส์ ที่จะขยายไปตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

“ ประเทศไทยถือว่าเป็น ฮับด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทั้งด้านทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมไปถึงมีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้มีอัตราการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจสูง ขณะที่ภาครัฐฯ

ยังคงการส่งเสริมแผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับกิจกรรมการขนส่งสินค้า ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ SONIC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจในการให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์ ครบวงจร แบบ One Stop Service จะได้รับอานิงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ” ดร.สันติสุข กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต แตะ ระดับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 964.30 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 47.92 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ประมาณ 65% รองลงมาธุรกิจการจัดการขนส่งทางบก ภายในประเทศ (Transport) และการจัดการขนส่งสินค้าข้ามแดน (Cross-border Transport) 25% และ ธุรกิจการจัดการขนส่งระหว่างประเทศทางอากาศ (Air Freight) 10%