”ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง” ผนึกกัน แก๊งอาชญากรยากลอยนวล

1005


           “   ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นภาพตำรวจและฝ่ายปกครองประสานการทำงานกัน เพราะที่ผ่านมามักจะประสานงากันมากกว่า ทั้งนี้อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างถือว่ามีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย

            แต่ภาพที่ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันทำงานปรากฏให้เห็นเป็นข่าว เปิดเผยโดย พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) ว่า เวลา 23.30 น.วันที่ 16 มิถุนายน สั่งการให้ พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพะยอม รอง ผบก.ตม.3 ,พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พร้อมกำลังตำรวจ ตม.ชลบุรี สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เข้าตรวจค้นโรงแรมอันไถฮอลิเดย์ พัทยากลาง อ.บางละมุง

         จับกุมชาวจีน 16 คน  เวียดนาม 3 คน และชาวสิงคโปร์ 1 คน รวม 20 คน ลักลอบเล่นการพนัน ยึดอุปกรณ์เล่นการพนัน และชิบแทนเงินสดจำนวนหนึ่ง ค้นบนชั้น 8 ของโรงแรมพบคนจีน 6 คน กำลังส่งออนไลน์ ตรวจสอบพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์พบว่าทำงานเป็นพนักงานลอบส่งลิงค์ให้บริษัทเอกชนในจีนเพื่อปล่อย Ransomware เรียกค่าไถ่ จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในหลายข้อหา พร้อมสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง

      พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ บอกถึงสาเหตุที่เข้าจับกุมว่า ได้รับการประสานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่ามีต่างด้าวลักลอบเล่นการพนันที่โรงแรมอันไถฮอลิเดย์  จึงประสานกำลังกันทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง พร้อมส่งสายลับเข้าไปสืบข่าว จนมั่นใจว่าตรงกับที่ร้องเรียนจึงเข้าจับกุม ถ้าดูเนื้อหาข่าวจะพบว่าต่างด้าวกลุ่มนี้มิได้ทำผิดแค่ลักลอบเล่นพนันอย่างเดียว แต่ยังก่ออาชญากรทางออนไลน์ด้วย พอสันนิษฐานได้ว่าน่าจะตั้งแก๊งก่ออาชญากรรมมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยเกือบทุกแห่ง รวมถึงกรุงเทพฯ

   เพราะพวกต่างด้าวโดยเฉพาะจีนเทา จะมองว่าเมืองไทยคือสวรรค์แห่งการก่ออาชญากรรม แสวงหารายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เพียงแค่จ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สามารถกอบโกยผลประโยชน์ได้มหาศาล แล้วหลบหนีออกนอกประเทศได้อย่างสบายใจเฉิบ

      ข่าวที่ยกมานำเสนอเพียงเพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันสืบสวนจับกุม โดยที่ไม่มีผลประโยชน์มากองอยู่ตรงหน้า อาชญากรที่ก่ออาชญากรรมทุกประเภทอยู่ลำบากแน่นอน แต่ที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างอยู่กันในลักษณะไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ถ้าแก๊งอาชญากรที่เข้ามาก่อเหตุเคลียร์หน้าเสื่อทั้งสองฝ่าย จะได้รับไฟเขียวให้ทำผิดกฎหมายแบบฉลุย หรือกรณีที่มีบ่อนการพนันในพื้นที่ สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา ถ้าเคลียร์หน้าเสื่อทั้งสองฝ่ายผลประกอบการจะผ่านฉลุยเช่นกัน

        แต่ถ้าเคลียร์เพียงตำรวจฝ่ายเดียว จะปรากฏข่าวฝ่ายปกครองนำกำลังเข้าจับกุมโดยกันไม่ให้ตำรวจในพื้นที่ร่วมจับกุม สุดท้ายตำรวจถูกเด้ง เจ้าหน้าที่ปกครองรับชอบ ตามด้วยผลประโยชน์ที่เจ้าของธุรกิจเถื่อนโยนให้พร้อมๆกับโยนตำรวจซึ่งปัญหาลักษณะนี้ชาวบ้านทั่วไปต่างทราบกันดีว่าธุรกิจเถื่อนทุกรูปแบบที่เจริญงอกงามอยู่ได้เพราะมีตำรวจและฝ่ายปกครองผนึกกำลังกันวางเฉย

     หากตั้งคำถามว่าธุรกิจเถื่อนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งค้ายาเสพติด แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งเงินกู้นอกระบบ บ่อนการพนัน แก๊งจีนเทา แก๊งมาเฟียเกาหลี แก๊งมาเฟียเยอรมันและแก๊งมาเฟียอีกหลายชาติ ดำเนินธุรกิจเถื่อนกอบโกยผลประโยชน์ได้มหาศาล เพราะจ่ายผลตอบแทนเถื่อนให้เจ้าหน้าที่รัฐใช่หรือไม่ ? ชาวบ้านตอบแบบไม่ต้องคิดทบทวนคำถามได้เลยว่า ใช่ เพราะทุกวันนี้หลายพื้นที่ถูกแก๊งต่างด้าวยึดแบบที่คนไทยเจ้าของแผ่นดินไม่สามารถที่จะเดินเฉียดเข้าไปได้เลย

     ข่าวจับกุมแก๊งต่างด้าวตามที่ยกมาเป็นตัวอย่าง พอสะท้อนได้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในพื้นที่ถ้าตำรวจและฝ่ายปกครอง ผนึกกำลังกันทำงานแบบตรงไปตรงมา จะไม่มีอะไรที่รอดสายตาไปได้เลย และเชื่อว่าการจับกุมครั้งนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแก๊งต่างด้าวเคลียร์หน้าเสื่อไม่ครอบคลุมทุกหน่วยงานหรอกนะ

     ดังนั้นยามที่บ้านเมืองอยู่ในสภาพที่กระบวนการยุติธรรมอ่อนล้า จนชาวบ้านอยู่ในอาการขวัญผวา ตำรวจและฝ่ายปกครอง เท่านั้นที่จะช่วยเรียกขวัญให้กลับมาได้ และถ้าทั้งสองหน่วยผนึกกำลังกันทำงานเพื่อประเทศชาติจริงๆยากที่แก๊งอาชญากรจะลอยนวลอยู่ได้ !!!