ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. กล่าวถึงกรณีนางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ถูกคนร้ายนำบัตรประจำตัวประชาชน ไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี ว่า ส่วนตัวตนขอแสดงความเห็นใจและยืนยันออกหมายจับนั้นทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนหลังมีการออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งพบว่านางสาวณิชา ไม่มีการเข้ามารายงานตัวและให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน จึงมีการออกหมายจับ แต่พนักงานสอบสวนก็ได้รับฟังคำให้การและการร้องทุกข์ ยืนยันจะทำให้เกิดความชัดเจนและความเป็นธรรม ส่วนกรณีดังกล่าวจะเป็นความปล่อยปละละเลยของธนาคารหรือไม่นั้นอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

ด้านนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 เป็นผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ระบุถึงกระแสข่าวการปรับเงินหรือการเยียวยาแก่ธนาคารที่ทำการเปิดบัญชีให้แก่บุคคลตัวปลอมที่ไม่ใช่เจ้าของบัตรประชาชนที่แท้จริง ว่า ปปง. จะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินของธนาคารและเกี่ยวกับการเปิดบัญชีต่างๆ ซึ่งได้มีการกำหนดหลักการการเปิดบัญชีไว้ตามขั้นตอน (KYC) ก่อนธนาคารจะทำการเปิดบัญชีให้บุคคลใดก็ต้องมีการตรวจสอบก่อน เช่น การให้สอบถามข้อมูลส่วนตัวผู้ขอเปิดบัญชี วัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ อาชีพ ต่างๆตามระเบียบขั้นตอน แต่หากพบว่าพนักงานธนาคารไม่ทำตามขั้นตอนการตรวจสอบก่อนเปิดบัญชี ก็จะทำการเปรียบเทียบปรับต่อธนาคาร เป็นเงินสูงสุด 1 ล้านบาท ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักเกณฑ์ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้ด่วนสรุป ขอให้รอการตรวจสอบก่อน โดยวันนี้จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูล 4 ธนาคาร วันอังคารที่ 16 มกราคม จะไปตรวจสอบข้อมูลอีก3 ธนาคาร รวมถึงจะมีการเรียกธนาคาร สถาบันการเงิน 30 กว่าแห่งทั่วประเทศ มาวางมาตรการป้องกัน ทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้ปัญหาลักษณะนี้อีก