พปชร. ชื่นชมแพทยสภา ถือหลักการ-ความถูกต้อง ยัน “ทักษิณ” ป่วยทิพย์ ชี้ อุ๊งอิ๊ง ให้ข้อมูลเท็จต่อสื่อ-ศาล เรื่องอาการป่วยพ่อ

371

ที่พลังประชารัฐ (พปชร.) – วันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการแพทยสภา ได้ประชุมพิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ที่ให้ลงโทษแพทย์ 3 นายที่เกี่ยวข้อง ว่า ขอบคุณและชื่นชมคณะกรรมการแพทยสภาทุกท่านที่ พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา  และถือหลักการ ความเป็นจริง ความถูกต้อง มากกว่าประโยชน์ของคนบางคน โดยเฉพาะคำกล่าวของ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกฯที่เป็นตัวแทนแพทยสภา ระบุว่าอยากให้แพทย์สภาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้องรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณวิชาชีพ และวันนี้กรรมการแพทยสภาได้ทำสิ่งเหล่านี้แล้ว กำลังใจที่ส่งมาได้ส่งผลแล้ว

โฆษก พปชร. กล่าวว่า ในขั้นต่อไป  เหลือเพียงรอผล การแจ้งผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น จากการพิจารณาของแพทยสภาเป็นการตอกย้ำเมื่อความปรากฏชัดเป็นเช่นนี้แล้วแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณฯ อดีตนายกรัฐมนตรี “ป่วยทิพย์” ไม่ได้ป่วยในภาวะวิกฤติที่ต้องรับการรักษาตัวนานถึง 180 วัน ทำให้การส่งตัวมารับการรักษา การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ช่วงเวลาดังกล่าว  ตลอดจนการรับโทษจำคุก 180วัน เป็นไปโดยผิดกฎหมาย  และถือว่าไม่มีการควบคุมตัวมาก่อน  จึงทำให้ขาดคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษ 1 ปีที่เหลือด้วย

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ ผลการพิจารณาดังกล่าวยังส่งผลกระทบถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากได้ เข้าเยี่ยม และให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงอาการป่วยของนายทักษิณ เพื่อให้ประชาชนและศาลฯ หลงเชื่อว่า นายทักษิณมีอาการป่วยหนักจริง  ตลอดจนการให้สัมภาษณ์ ของนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าได้รับแจ้งอาการป่วยจากหัวหน้าพรรค คือน.ส.แพทองธาร ว่านายทักษิณป่วยเป็นเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จที่หลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ และหลอกลวงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยเช่นเดียวกัน

“กรณีนี้ หากมีผู้ร้องเรียน ท่านนายกฯอาจจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ซึ่งพรรค พปชร.จะคอยมอนิเตอร์ คาดว่า ปปช. และ ศาลฎีกาฯ คงจะมีมาตรการ คำสั่ง และคำพิพากษา ไปในทิศทางเดียวกันกับแพทยสภา เพราะมีองค์กรวิชาชีพได้ดำเนินการสอบสวนและตัดสินเบื้องต้นเป็นแนวทางแล้ว” โฆษก พปชร.ระบุ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ยังตั้งคำถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธารเดินทางไปราชการที่ประเทศอังกฤษโดยใช้งบประมาณทางราชการ กว่า 200 ล้านบาท โดยอ้างว่าเพื่อไปกับเปิดช่องทางการค้ากับกลุ่มประเทศในอียู ทั้งที่ประเทศอังกฤษได้ออกจากอียูตั้งแต่ 31 มกราคม 2563 แล้ว ว่า เป็นการใช้งบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชนอย่างเหมาะสมหรือไม่  รวมทั้งกรณีการโยกงบประมาณฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144  ยังเป็นประเด็นที่ พปชร.ให้ความสนใจ  และเตรียมคณะทำงานเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการต่อไป