กรุงเทพฯ วันที่ 13 มิ.ย. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์) ที่ ครม. เพิ่งเห็นชอบไป ว่า ขณะนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนการส่งไปสภาฯเพื่อพิจารณาวาระที่ 1 โดยร่างแก้ไข พ.ร.บ.นี้ เป็นการรองรับการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้ในการออกผลิตภัณฑ์และทำธุรกรรมในตลาดทุนได้ โดยรองรับกระบวนการออกหลักทรัพย์ จากเดิมที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ มาเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่การออกหลักทรัพย์จนถึงตลอดอายุ (Life Cycle) ซึ่งทำให้หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์จะมีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ที่เป็นกระดาษ

รมช.คลังกล่าวว่า กม.ดังกล่าว มีข้อดีต่อประชาชน หลายประการ ได้แก่ การโอนและการส่งมอบหลักทรัพย์ จากเดิมจะต้องมีการส่งมอบการครอบครองในรูปแบบกระดาษ มาเป็นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยดำเนินการผ่านสิทธิในการควบคุมหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นของตนเองไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ขณะเดียวกันหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถนำมาใช้เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้และใช้ในการบังคับหลักประกันได้ โดยไม่ต้องส่งมอบหลักทรัพย์ในรูปแบบกระดาษ มีทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์โดยบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ จะทำให้สามารถติดตามผู้ถือหลักทรัพย์ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น สามารถรองรับการนำเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้ในการออกผลิตภัณฑ์และทำธุรกรรมในตลาดทุนในอนาคตได้ และเป็นการทำให้หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับหลักทรัพย์ที่เป็นกระดาษ
“ร่างพระราชบัญญัติฯนี้ จะส่งเสริมการดำเนินการในตลาดทุนให้เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ครบถ้วน ทั้งระบบ ทำให้การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องมีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดขั้นตอน ลดภาระในการจัดเก็บเอกสาร และเป็นกรอบกฎหมายที่คุ้มครองผู้ลงทุนและผู้ประกอบการ” นายเผ่าภูมิระบุ

