“3สส.ประชาชน”ยื่นสอบภาษี”ทวีวัฒน์”ปมเงินลึกลับ 12 ล้าน

536

สาม สส.พรรคประชาชน ยื่นสอบภาษีที่ปรึกษา กสทช. ปมเงินลึกลับ 12 ล้าน – จี้สรรพากรร่วมมือธนาคารตรวจเส้นทางการเงิน หวั่นซุกภาษี-โยงคอร์รัปชัน

วันที่ 9 มิถุนายน 2565 – สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อจากพรรคประชาชน ได้แก่ น.ส.รักชนก ศรีนอก, น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ และน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากร เพื่อขอให้ตรวจสอบภาษีและเส้นทางการเงินของ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ที่ปรึกษาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ภายหลังพบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเงินสดจำนวน 12 ล้านบาทที่ยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจน

น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์ รักชนก” เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีของนายทวีวัฒน์ ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา กสทช. และเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการ ทั้งยังมีรายได้ที่แจ้งต่อสรรพากรเพียงปีละ 1 ล้านบาท แต่กลับมีกรณีเงินสด 12 ล้านบาทที่ยังไม่มีการระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน

“เราอยากให้กรมสรรพากรเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่มีคำชี้ชัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเงินเป็นของใคร หากไม่ปรากฏการแสดงรายได้ชัดเจนต่อกรมสรรพากร ก็อาจเข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีได้” รักชนกกล่าว พร้อมชี้ว่าแม้จะมีข้อจำกัดด้านอำนาจตามกฎหมาย แต่เรื่องนี้มีมูลและพยานแวดล้อมเพียงพอให้สามารถเปิดการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานอื่นได้

ด้าน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ หรือ “ลิซ่า ภคมน” ตั้งข้อสังเกตว่า เงินจำนวนนี้อาจเชื่อมโยงกับตำแหน่งของนายทวีวัฒน์ใน กสทช. และหากมีรายได้มากเช่นนี้ ควรมีการแสดงรายรับชัดเจน และเสียภาษีตามกฎหมาย

“สิ่งที่เรากังวลคืออาจเป็นจุดเริ่มต้นของการคอร์รัปชันภายใน กสทช. และยังมีประเด็นที่ภรรยาของนายทวีวัฒน์เป็นผู้อำนวยการในสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งต้องมีการแสดงบัญชีทรัพย์สินร่วมกัน เราจะดำเนินการยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ด้วย เพราะสามีภรรยามีสถานะต้องแสดงทรัพย์สินร่วมกัน” ภคมนระบุ

ทั้งนี้ ทั้งสาม สส. เรียกร้องให้ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับบัญชีที่มีเงินสดดังกล่าว เข้ามาร่วมตรวจสอบ เพราะมีข้อมูลว่าเลขธนบัตรจำนวนหนึ่งเรียงต่อกัน อาจบ่งชี้ถึงการถอนเงินเป็นลอตใหญ่ ซึ่งสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่าเรื่องเงิน 12 ล้านบาทเกิดขึ้นในช่วงใกล้กับการเปิดประมูลคลื่นความถี่โดย กสทช. ซึ่งอาจเป็นบริบทที่มีผลต่อความโปร่งใส เนื่องจากนายทวีวัฒน์เป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนประจำ และได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากภาษีประชาชน ในขณะที่ภาครัฐและหน่วยงานต้นสังกัดยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีการออกแถลงการณ์หรือคำชี้แจงใด ๆ ต่อข้อกล่าวหานี้