“ข้าวซอยอิสลาม ลุงสุรินทร์ รสชาติดั้งเดิม ที่ขายบนดอยปุยมากว่า 40 ปี” อร่อยจนต้องลอง

“ข้าวซอย” เป็นอาหารในสมัยโบราณ ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก”ชาวจีนฮ่อ”หรือชาวจีนที่นับถือศาสนา”อิสลาม” ที่ได้เดินทางเข้ามาค้าขาย ทางตอนเหนือของประเทศไทย เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ฯลฯ
ต่อมาได้มีการ อพยพ กลุ่มชนที่เป็น ชาวจีนฮ่อ ที่อาศัยอยู่ทางตอนล่างของประเทศพม่า ย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย ทำให้มีการตั้ง รกราก ถิ่นฐาน และประการกอบอาชีพต่างๆ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างๆ รวมไปถึงอาหาร ประจำถิ่น อย่าง “ข้าวซอย” ที่เป็นอาหาร ที่นิยมกินกัน เป็นอาหารประจำถิ่นของชาวจีนฮ่อ โดยมีเส้นคล้ายบะหมี่ ที่ทำเอง นำไปลวก แล้วราดด้วย น้ำแกงที่มีรสจัด ประกอบด้วย เนื้อวัว น้ำกะทิ พริกแห้ง หอม กระเทียม กระวานเทศ ขมิ้น พริกไท และส่วนผสมต่างๆ ที่เป็นสูตรเฉพาะของ ข้าวซอย ที่ทำกินกันตลอดมา
ความเป็นมาของ ข้าวซอย สูตรดั้งเดิม ของชาวจีนฮ่อ…!!

ก่อนที่กลุ่มชน ชาวจีนฮ่อ ที่อาศัยอยู่ในประเทศพม่า จะอพยพ ผู้คนลงมาตั้งถิ่นฐาน ทำมาหากิน และค้าขายในประเทศไทย วัฒนธรรมต่างๆ ความเป็นอยู่ และอาหารการกินโดยเฉพาะ”ข้าวซอยพื้นถิ่น” มีชื่อว่า “อน-โน เคาสะเว” ใช้แป้งนวดแล้วรีดเป็นแผ่น หั่นเป็นเส้น นำไปลวกในน้ำเดือด ราดด้วยน้ำแกงรสจัด ซึ่งมีลักษณะคล้าย”ข้าวซอย”ทุกประการ เมนูนี้ได้ขยายอิทธิพลมายังประเทศไทย กลายเป็นเมนู”ข้าวซอย” ที่มีรสชาติจัดจ้าน กลมกล่อม และอร่อยตามแบบฉบับของ”ข้าวซอย”ที่ขายในเมืองไทย มาจนถึงปัจจุบัน
สวัสดี เพื่อนๆ นักเที่ยว นักกิน นักชิมทั้งหลาย พบกับคอลัมน์ กินกับลุง อร่อยเต็มพุงกับ ลุงดุลย์ ทางสำนักข่าวออนไลน์ ไทยแท็บลอยด์ เป็นประจำทุกวันพุธ
ทริปนี้ ลุงพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวทางภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงฤดูฝนกันบ้าง
ขึ้นเขา ขึ้นดอย ไปกินข้าวซอย บนดอยปุย ชมบรรยากาศความสวยงาม ที่ฟ้าฉ่ำฝน และสายหมอก แล้วไปอร่อยกับ”ข้าวซอยอิสลาม”ขนานแท้ ที่เพื่อนๆแฟนเพจ”กินกับลุง” แนะนำมาว่า ถ้าลุงไปเที่ยวเชียงใหม่ ให้ลองไปกินข้าวซอยอิสลาม บนดอยปุยบ้าง
มีโอกาสได้มาเที่ยวเชียงใหม่อีกครั้ง ก็จัดสิครับ ตามคำเรียกร้อง
ลุงขับรถฝ่าสายฝน สายหมอก วิ่งผ่านดอยสุเทพ ขึ้นจนถึง”ดอยปุย”เพื่อไปลิ้มลอง ข้าวซอย อิสลาม ลุงสุรินทร์ นามกระฉ่อนแห่งดอยปุย ตามคำเชื้อเชิญกินข้าวซอย ชมดอยปุย
ข้าวซอยเนื้อ ข้าวซอยไก่ สั่งได้เลย อร่อยทุกอย่าง ….!!
ม๊ะห์… กำลังสารวน อยู่กับการทำข้าวซอยให้ลูกค้า ปากก็ส่งเสียงเชื้อเชิญ ลูกค้า ให้เข้าไปนั่งในร้าน

บรรยากาศในร้าน เหมือนร้านอาหารที่เป็นห้องแถวทั่วไป มีตู้โชว์และเครื่องประกอบอาหาร อยู่หน้าร้าน แต่บรรยากาศหลังร้าน เปิดโล่ง มองเห็นวิว เป็นทิวเขา ของดอยปุย ที่มีหมอกเมฆจากละอองฝนเป็นแบ็คกราวด์

เมนูแรก ข้าวซอยเนื้อ ราคา 80 บาท เนื้อก้อนไม่เล็ก เปื่อยกำลังดี มีแทคเจอร์ให้เคี้ยว เต็มปากเต็มคำ เนื้อวัวหั่นเป็นก้อน ต้มอยูในหม้อ น้ำแกงเข้มข้น หอมเครื่องเทศ ของพริกแกงข้าวซอย รสกลมกล่อมลงตัว ตักราดบนเส้นข้าวซอย ที่ใช้บะหมี่อิสลาม ต้มจนสุก ทำเป็นเส้นของข้าวซอย โรยหน้าด้วย หมี่เหลืองกรอบ มีหอมแขกซอย และ ” **กิมจิดอย”เสริฟเป็นเครื่องเคียง อร่อยสมคำร่ำลือ

เมนูที่ 2 ข้าวซอยไก่ ราคา 80 บาท รสชาติน้ำแกง เข้มข้นเหมือนกันทุกอย่าง ทำแยกหม้ออย่างชัดเจน สำหรับคนไม่กินเนื้อ สบายใจได้หายห่วง อร่อยเหมือนเดิม

เมนูที่ 3 เส้นเล็กแห้ง เนื้อเปื่อย ที่ลุงต้องสั่งแบบนี้ เพราะลุงมองเห็นเนื้อเปื่อยที่ต้มไว้สำหรับทำก๋วยเตี๋ยว เนื้อน่ากินมาก สั่งเนื้อเปื่อยอย่างเดียว …ม๊ะห์ไม่ขาย ม๊ะห์บอกว่า “กินข้าวซอยก็อร่อยแล้ว” ส่วนเนื้อเปื่อย มีไว้สำหรับทำก๋วยเตี๋ยว เผื่อคนที่กินข้าวซอยไม่เป็น ก็สั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวได้ที่นี่ ถ้าอยากกิน ก็ต้องสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น ลุงก็เลยสั่งเป็นเส้นเล็กแห้ง เพราะต้องการกินเนื้อเปื่อย

เนื้อเปื่อยสับชิ้นใหญ่ วางลงบนกะหล่ำปลีและเส้นเล็กที่ลวกไว้ คลุกเคล้าน้ำมันเจียวให้เข้ากัน ปรุงรสชาติแบบก๋วยเตี๋ยวแห้ง เนื้อเปื่อย เปื่อยกำลังดี ลุงแอบเอาน้ำข้าวซอยราดลงบนเนื้อเปื่อย รสดีทีเดียว แต่จะไม่เข้าเนื้อเหมือนเนื้อที่ต้มอยู่ในหม้อที่ใช้ราดข้าวซอย อย่างที่ม๊ะห์บอก ทำให้ลุงเข้าใจเลย ว่า…ทำไม ม๊ะห์ ถึงไม่ขายเนื้อเปื่อยแยกต่างหาก คงเพราะกลัวเสียรสของ”ข้าวซอยแบบออริจินัล” ต้นตำหรับ ที่ทำขายมานานกว่า 40 ปี นั่นเอง
จัดไปสามรายการ อิ่มตื้อ อร่อยสมคำร่ำลือ ก่อนกลับ ลุงซื้อเส้นบะหมี่อิสลามสำเร็จรูป ที่ใช้ทำข้าวซอย ติดมือกลับบ้าน พร้อมกิมจิดอย เผื่อวันไหนอยากกินข้าวซอยและคิดถึงดอยปุย

** กิมจิดอย เป็นผักกาดดอง ที่ทางร้านลุงสุรินทร์ ดองเอง รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อม ตัวผักกาดกรอบอร่อย นำไปทำเมนูอย่างอื่นได้ ขายกิโลกรัมละ 150 บาท
ที่จอดรถ จอดได้ที่ตลาดทางปากทางขึ้นดอย หรือจะลงไปจอดในโรงเรียน แล้วเดินขึ้นมา
พบกันครั้งต่อไป ว่าลุงจะพาไปเที่ยว ไปกิน ไปชิมที่ไหน ติดตามคอลัมน์ กินกับลุง ทางสำนักข่าวออนไลน์ ไทยแท็บลอยด์ เป็นประจำทุกวันพุธ…..สวัสดี
ลุงดุลย์

