ปม.โชว์ผลงาน ปรับโฉม “ปลาหมอชุมพร 1”แบน หนา ขนาดใหญ่ สนองเทรนด์ตลาดยุคใหม่

500

ปม.โชว์ผลงาน ปรับโฉม “ปลาหมอชุมพร 1”
แบน หนา ขนาดใหญ่ สนองเทรนด์ตลาดยุคใหม่

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า หลังได้รับคำสั่งการจาก นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กรมประมงติดตามการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์สัตว์น้ำพันธุ์ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตสัตว์น้ำเศรษฐกิจ 14 สายพันธุ์ ได้แก่ ปลานิล (จิตรลดา 3, จิตรลดา 4), ปลานิลแดง (เร้ด 1, เร้ด 2, ปทุมธานี 1), ปลาไน (คอม 1), ปลาตะเพียนขาว (ซิลเวอร์ 1 ซี, ซิเวอร์ 2 เค, ตะเพียนขาวนีโอเมล), ปลายี่สกเทศ (โรห์ 1), ปลานวลจันทร์เทศ (มา 1), กุ้งก้ามกราม (มาโคร 1), กุ้งขาวแวนาไม และปลาหมอ (ชุมพร 1) พร้อมกระจายพันธุ์สัตว์น้ำที่ดีมีคุณภาพไปสู่เกษตรกร เพื่อให้สามารถผลิตสัตว์น้ำได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยมีลักษณะรูปร่างปรากฏตรงตามความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี มีความต้านทานโรค ให้ผลผลิตสูง และจำหน่ายได้ราคาดี ส่งผลให้เกษตรกรมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพระยะยาว

ล่าสุด กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำสามารถปรับปรุงพันธุ์โดยปรับปรุงรูปร่างปลาหมอชุมพร 1 ได้สำเร็จ ด้วยวิธีการคัดเลือกโดยดูลักษณะภายในครอบครัว ซึ่งเป็นการเพิ่มสัดส่วนความลึกลำตัวต่อความยาวมาตรฐาน น้ำหนัก และความยาวตลอดลำตัวให้เพิ่มขึ้น สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี กระทั่งนำไปสู่การขยายผลเพื่อเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์

นายสุชาติ จุลอดุง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร เปิดเผยว่า “ปลาหมอ” (Climbing Perch) เป็นปลาน้ำจืดที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพน้ำที่แปรปรวน สามารถเพาะเลี้ยงในอัตราความหนาแน่นสูง และขนส่งในรูปแบบปลาสดมีชีวิตได้ไกล ทำให้ตลาดมีความต้องการสูง โดยทางศูนย์ฯ ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ปลาหมออย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2546 โดยในช่วงแรกได้ปรับปรุงด้านการเจริญเติบโตแบบหมู่ 4 รุ่น ซึ่งทำให้ได้ปลาหมอที่มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 76 และตั้งชื่อสายพันธุ์ว่า ปลาหมอชุมพร 1 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2554 แต่เพื่อให้ได้ปลาที่มีลักษณะรูปร่างสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคซึ่งนิยมเลือกซื้อปลาหมอที่มีลักษณะลำตัวแบน สันหนา ดูเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ แม้จะมีน้ำหนักเท่ากันเมื่อเทียบกับปลาหมอรุ่นก่อนๆ จนกระทั่งในปี 2563 จึงได้ใช้วิธีการคัดเลือกลักษณะภายในครอบครัวเพื่อปรับปรุงรูปร่างของปลาหมอชุมพร 1 จำนวน 2 รุ่น ซึ่งพบว่าปลาหมอรุ่นที่ 2 มีค่าเฉลี่ยสัดส่วนความลึกของลำตัวต่อความยาวมาตรฐาน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 มีรูปร่างที่แบนขึ้น ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น อีกทั้งยังมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 15 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการปรับปรุงพันธุ์ที่ยังคงลักษณะการเจริญเติบโตที่ดี สามารถสร้างผลผลิตปลาหมอเพื่อรองรับความต้องการของตลาดผู้บริโภค และพร้อมกระจายพันธุ์สำหรับให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงเชิงพาณิชย์ต่อไป

ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์เอาชัย กาญจนพิทักษ์ หนึ่งในเกษตรกรผู้มีประสบการณ์เลี้ยงปลาหมอชุมพร 1 และปลาหมอชุมพร 1 ปรับปรุงพันธุ์ในร่องสวนปาล์ม อ.หลังสวน จ.ชุมพร ยืนยันว่า ปลาหมอสายพันธุ์ชุมพร 1 ที่มีการปรับปรุงพันธุ์มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของระยะเวลาการเจริญเติบโต รูปร่าง และราคาจำหน่าย โดยปลาหมอชุมพร 1 ที่ปรับปรุงพันธุ์ จะใช้ระยะเวลาการเลี้ยงจนได้ขนาดตามความต้องการของตลาด คือ 3 – 5 ตัวต่อ กก. เพียง 4 เดือน และสามารถจำหน่ายได้ราคาสูงถึง กก.ละ 150 บาท ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังตอบสนองต่อความต้องการของตลาดร้านอาหารที่ต้องการปลาหมอขนาดใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสให้แก่เกษตรกรไทยได้เป็นอย่างดี

เกษตรกรหรือผู้สนใจที่ต้องการขอรับคำแนะนำ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาหมอชุมพร 1 ปรับปรุงพันธุ์ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร เลขที่ 12/35 หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งคา อำเภอเมือง จ.ชุมพร 86100 โทรศัพท์ 0 7751 0310 ในวันและเวลาราชการ หรือที่ Facebook Page : ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#กรมประมง