ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันที่ 30 เมษายน นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลกปรับลดประมาณการ GDP ไทยปี 2568 ลงสู่ 1.6% ต่ำสุดในภูมิภาค จากที่เคยประเมินไว้ที่ 2.9% โดยแสดงความกังวลว่า ประชาชนจะไม่สามารถตั้งความหวังกับการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้ได้เลย และกรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่บริษัทจัดอันดับเครดิต มูดี้ส์ ได้ประกาศลดอันดับไทยจาก “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ก็ตอกย้ำด้วยว่า ประชาชนชาวไทยจะเผชิญความยากลำบากมากขึ้น
นายธีระชัยกล่าวว่าเคยเตือนรัฐบาลหลายครั้ง ให้เตรียมรับมือพายุสมบูรณ์แบบ ซึ่งบัดนี้ธนาคารโลกก็ยืนยันพ้องกันแล้วว่า กำลังจะเกิดแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออก การบริโภค และการลงทุน แต่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้เตรียมรับมือไว้เลย ไม่เคยแนะว่าประชาชนควรจะวางแผนส่วนตัวอย่างไร

สำหรับ 3 แนวทางที่ธนาคารโลกเสนอเพื่อรับมือ คือ การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ กระตุ้นผลิตภาพ การปฏิรูปเพื่อยกระดับการแข่งขัน และการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศนั้น ประชาชนก็ไม่สามารถตั้งความหวังอะไรได้ เพราะสวนทางกับแนวทางที่ผ่านมาของรัฐบาล ที่เน้นการกู้หนี้มาแจกเงินหมื่น อันเป็นการเน้นให้เกิดผลต่อจีดีพีเร็ว ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีแรงส่งที่ยั่งยืน
“รัฐบาลที่จะทำตามคำแนะนำของธนาคารโลก จะต้องยึดหลักการวางนโยบายระยะยาว จะต้องเน้นการกระจายรายได้ กระจายโอกาส และจะต้องรื้ออุปสรรคต่อพ่อค้ารายย่อย ที่เกิดจากขาดการผูกขาดโดยกลุ่มทุนของพรรคการเมือง รวมทั้งเร่งให้แบงค์แข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่ได้ทำ” นายธีระชัยกล่าว

