นครบาลบุกช่วยเหลือ “น้องชมพู” ถูกแก๊งคอลฯรีดค่าไถ่5แสนบาท

80

น.1 สั่งการ รองนพศิลป์ – ผู้การเก่ง บุกเข้าช่วยเหลือ “น้องชมพู” ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์รีดค่าไถ่ 500,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวก่อนถูกส่งขายชายแดน

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส. บช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 เร่งรัดติดตามช่วยเหลือหญิงสาววัย 17 ปี หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ก่อนกุเรื่องรีดค่าไถ่ย่า 500,000 บาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัวหลานสาว
.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา นางบรรจง (สงวนนามสกุล) ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม ว่า น.ส.กัญญ์วรา หรือชมพู อายุ 17 ปี หลานสาวหายตัวไปจากบ้านช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 1 เมษายน ก่อนที่จะมีโทรศัพท์ปริศนาเป็นเสียงผู้ชายโทรเข้ามาอ้างว่าหลานสาว (น้องชมพู) ไปกู้เงินนอกระบบแล้วไม่ยอมคืนเงินจึงได้จับตัวน้องชมพูมา และข่มขู่ว่าถ้าอยากจะได้ตัวหลานสาวคืนให้โอนเงินมาเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ต่อมาเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 2 เมษายนได้โทรมาหา นางบรรจงอีกครั้ง โดยบอกว่าตอนนี้หลานสาว (น้องชมพู) ถูกจับตัวมาอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และหากถ้าไม่อยากให้หลานสาวโดนส่งไปขายที่ชายแดนขายให้เอาเงินมาแลกจำนวน 500,000 บาท แต่นางบรรจงไม่มีเงินจำนวน 500,00 บาท จึงได้โอนเงินที่มีในบัญชีจำนวน 30,000 บาทไปให้คนร้าย เพื่อแลกกับการขอดูหน้าหลานสาวของตัวเอง ก่อนที่นางบรรจงจะตัดสินใจเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินการติดตามช่วยเหลือหลานสาว


.
เมื่อทาง พล.ต.ท.สยามทราบเรื่องจึงเร่งสั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ นำทีมสืบนครบาล สืบบก.น.4 และ สืบสวนสน.บึงกุ่ม แกะรอยค้นหาน้องชมพูโดยเร็วเพื่อช่วยเหลือน้องเพราะคาดว่าจะตกอยู่ในอันตราย กระทั่งชุดสืบสวนพบว่าน้องชมพูมาเปิดห้องพักอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ชุดสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบพบน้องชมพูอยู่ภายในห้องดังกล่าวเพียงคนเดียว ซึ่งขณะนั้นกำลังโทรคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยมีการควบคุมสั่งการน้องชมพูผ่านทางโทรศัพท์ ตำรวจจึงได้เข้าช่วยเหลือทันทีก่อนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะไหวตัวและตัดสายทิ้งไป ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวน้องชมพูหลานสาวคืนสู่อ้อมกอดย่าอย่างปลอดภัย
.
อย่างไรก็ตามตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้ทั้งหมดแล้วซึ่งหลังจากนี้จะทำการขยายผลและติดตามจับกุมตัวต่อไป