หน้าแรกกองทัพ-ความมั่นคงผู้รายงานพิเศษ UN ชมธนาคารไทยยุติธุรกรรมการเงินรัฐบาลทหารเมียนมา ส่งผลยอดซื้ออาวุธลดลงกว่า 1 ใน 3

ผู้รายงานพิเศษ UN ชมธนาคารไทยยุติธุรกรรมการเงินรัฐบาลทหารเมียนมา ส่งผลยอดซื้ออาวุธลดลงกว่า 1 ใน 3

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยองค์กรเครือข่าย ร่วมจัดงาน “Fostering Sustainable Peace and Security : Thailand and ASEAN’s Path towards Border Stability and Democracy” (การบ่มเพาะสันติภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืน : เส้นทางของไทยและอาเซียนสู่ความมั่นคงชายแดนและประชาธิปไตย) เป็นวันที่สอง โดยมีตัวแทนจากทั้งส่วนราชการไทย องค์กรระหว่างประเทศ คณะทูต และองค์กรภาคประชาสังคม ร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง ณ อาคารรัฐสภา

โดยในช่วงเช้า มีการกล่าวปาฐกถาโดยนายโทมัส แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในเมียนมาประจำองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเมื่อปีก่อนหน้านี้ได้เป็นผู้เปิดโปงกรณีสถาบันทางการเงินในประเทศไทยอำนวยการทางธุรกรรมให้กับรัฐบาลทหารเมียนมาในการจัดซื้ออาวุธสงคราม

นายโทมัส เริ่มต้นปาฐกถาด้วยการกล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งมีความน่ากังวลมากขึ้น ทั้งด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม สภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ อาชญากรรมทั้งในและข้ามประเทศที่ขยายตัวมากขึ้น แต่ประชาชนเมียนมาก็ยังคงแสดงความกล้าหาญในการปกป้องตัวเอง ครอบครัว และประเทศของพวกเขา แม้รัฐบาลทหารเมียนมาจะสูญเสียการควบคุมประเทศมากขึ้น แต่ก็ยังเพิ่มความทุกข์ให้ชาวเมียนมาด้วยการบังคับเกณฑ์ทหาร และการยกระดับการโจมตีเป้าหมายพลเรือนมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศสามารถช่วยเหลือชาวเมียนมาที่กำลังต่อสู้เพื่ออนาคตของพวกเขาเองได้ ด้วยการปฏิเสธไม่ให้รัฐบาลทหารเมียนมาเข้าถึงการเงิน อาวุธ และความชอบธรรม

ในด้านการเงินและอาวุธ ประชาคมโลกต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับสถาบันทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมาโดยเด็ดขาด ซึ่งกรณีหนึ่งที่น่าชื่นชม คือ กรณีของสถาบันการเงินในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาหลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่าสถาบันการเงินในประเทศไทยมีการอำนวยการให้กับการทำธุรกรรมเพื่อจัดหาอาวุธให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา ตัวแทนธนาคารไทยก็ได้มีการแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยในการใช้ธนาคารไทยไปเกี่ยวข้องกับการซื้ออาวุธ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ก็เริ่มมีการสืบสวนสอบสวน พร้อมออกคำแนะนำให้ธนาคารไทยดำเนินการต่อธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมาในทันที

โดยเฉพาะต่อธนาคาร MEB ของเมียนมา ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินการด้านธุรกรรมในการจัดหาอาวุธให้กับทหารเมียนมาทั้งหมด ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนเพิ่งได้รับแจ้งจากธนาคารกรุงเทพ ว่าธนาคารกรุงเทพจะไม่มีการอำนวยการทางธุรกรรมใด ๆ ให้กับ MEB อีกต่อไปแล้ว การดำเนินการเช่นนี้เป็นเรื่องน่าชื่นชม แม้อาจจะมีความไม่สะดวกเกิดขึ้นบ้างกับสถาบันทางการเงิน แต่ผลที่จะได้คือการลดการเข่นฆ่าประชาชนโดยกองทัพเมียนมา ซึ่งมีค่ามหาศาลอย่างที่เทียบกันไม่ได้ โดยปัจจุบันธุรกรรมที่เกี่ยวกับการจัดหาอาวุธนั้นลดลงไปถึง 1 ใน 3

นายโทมัส กล่าวต่อไปว่า ในด้านความชอบธรรมนั้น นี่คือสิ่งที่รัฐบาลทหารเมียนมาขาดมากที่สุด และเป็นเหตุให้รัฐบาลทหารเมียนมาพยายามจะจัดการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมปีนี้หรือมกราคมปีหน้า แต่นี่คือเรื่องน่าขัน เพราะเมียนมาจะจัดการเลอกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมได้อย่างไรเมื่อผู้นำพรรคฝ่ายตรงข้ามถูกจับกุมคุมขัง ดำเนินคดี หรือเข่นฆ่า เมื่อมีนักโทษการเมืองกว่า 20,000 คน อยู่หลังลูกกรง รัฐบาลทหารเมียนมาจะจัดการเลือกตั้งระดับชาติได้อย่างไรเมื่อรัฐบาลคุมพื้นที่ได้แค่เสี้ยวส่วนของประเทศ นี่คือสิ่งที่ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติทั้งหลาย รวมทั้งประเทศไทยสามารถสร้างความแตกต่างได้ ด้วยการไม่ให้ความชอบธรรมแก่การเลือกตั้งครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในเมียนมากำลังเผชิญความท้าทายอย่างใหญ่หลวง จากการที่ประชาคมระหว่างประเทศบางกลุ่มตัดสินใจทอดทิ้งชาวเมียนมาในยามที่พวกเขาต้องการที่สุด โดยเฉพาะการถอนการสนับสนุนทางการเงินโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่มีการตัดงบประมาณทั้งด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชน นี่คือการทรยศหักหลังชาวเมียนมาอย่างรุนแรง

นายโทมัส กล่าวต่อไปว่า การสนับสนุนเหล่านี้ คือ การลงทุนที่น้อยกว่า 1% ของงบประมาณสหรัฐอเมริกาทั้งหมด นี่คือชีวิตจริงของมนุษย์ เมียนมากลายมาเป็นวิกฤตที่ถูกลืมจากทั้งโลก หากไม่มีการบอกเล่าออกไปก็จะไม่มีใครบนโลกรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นและจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในเมียนมา นี่คือเรื่องที่อาศัยสถิติอย่างเดียวมาจับไม่ได้แต่ต้องถูกพูดถึงในมุมของความเป็นมนุษย์ด้วย รัฐบาลใหม่ของสหรัฐอเมริกาอาจอ้างว่าโครงการเหล่านี้สิ้นเปลืองไม่คุ้มค่า แต่การลงทุนเหล่านี้คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนมาแล้วต่อชีวิตของชาวเมียนมา

ส่วนประเทศไทย สิ่งที่ไทยทำได้ คือ การจ้างงานแก่ผู้ลี้ภัยเมียนมาที่กำลังจะถูกตัดการสนับสนุนเหล่านี้ พวกเขา คือ คนที่กำลังจะถูกตัดขาดจากการเข้าถึงทั้งด้านสาธารณสุข ที่อยู่อาศัย และกระทั่งอาหาร ประชาคมโลกสร้างความแตกต่างได้ด้วยการยืนเคียงข้างและยืนหยัดเพื่อชาวเมียนมาที่กล้าหาญ ไม่ปล่อยให้การทรยศครั้งนี้นำไปสู่หายนะ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img