ผู้ช่วยเลขา ศอ.บต. ร่วมงานละศีลอด นาทวี มุ่งส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม

112

ที่ มัสยิดบ้านพลีใต้ สงขลา วันที่ 22 มีนาคม นายนิพนธ์ ชายใหญ่ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกิจกรรมละศีลอด (เปิดปอซอ) เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 ประจำปี 2568 ที่มี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภ.4) เป็นประธาน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ บนพื้นฐานความหลากหลายในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสันติสุข ตลอดจนปฏิบัติตนต่อกันในเดือนรอมฎอนตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม  รวมถึงมีการพบปะผู้นำศาสนาและประชาชนในพื้นที่ โดยมี พระวชิรสุนทร รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา, นายศักดิ์กรียา บินแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา, พันตำรวจเอก พสิษฐ์ ศานติปรัชญา รองผู้บังคับการตำรวจจังหวัดสงขลา, นายอำเภอ, ผู้นำศาสนา และประชาชนเข้าร่วม

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการเสวนากับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ โดย พระวชิรสุนทร ในหัวข้อ“การเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรม ในพื้นที่ 4 อำเภอ สงขลา”, นายศักดิ์กรียา ในหัวข้อ “การปฎิบัติตนในห้วงเดือนรอมฎอน”, พันตำรวจเอก พสิษฐ์ ในหัวข้อ “การอำนวยความสะดวกในการประกอบศาสนกิจ”, นายนิพนธ์ ในหัวข้อ “การส่งเสริมวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับสังคมพหุวัฒนธรรม “  และ พลโท ไพศาล ในหัวข้อ “เดือนรอมฎอนอันประเสริฐและมาตรการ การดูแลความปลอดภัยในห้วงเดือนรอมฎอน“ โดยมีการมอบอินทผาลัมอบแห้ง และอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้นำศาสนา นำไปแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชน อีกด้วย

ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวอวยพร ว่า เดือนรอมฎอนถือเป็นเดือนสำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิม โดยมีความเชื่อตามหลักบัญญัติทางศาสนาว่า องค์อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้เดือนดังกล่าว เป็นเดือนแห่งการประกอบอิบาดะห์ และได้ทรงกำหนดให้ชาวมุสลิมหรือผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามต้องทำการ “ถือศีลอด”  เพื่อเป็นการควบคุมตัวเองในการรับประทานอาหารให้อยู่ในความพอดี ให้ร่างกายได้รู้จักความหิวโหย เพื่อให้เข้าใจ สภาพของคนยากไร้ที่ไม่มีอาหารรับประทานโดยตลอดระยะเวลา 1 เดือน ของการถือศีลอดนั้น ก็เพื่อทำให้ชาวมุสลิม มีจิตใจที่เมตตาเข้าอกเข้าใจผู้อื่นและยังเป็นช่วงเวลาสะสมความดีด้วยการละหมาด ตารอเวียะห์ การซิกรุลลอฮ์ อ่านอัลกุรอาน และทำจิตใจให้ใสสะอาด อีกทั้งยังส่งเสริม ให้มีการบริจาค และการเลี้ยงละศีลอด ให้กับผู้ที่ถือศีลอด ถือเป็นความดี ที่จะได้รับผลบุญหลายเท่า ในห้วงที่ผ่านมาแม้จะมีเหตุความรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกคนยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เดือนรอมฎอน ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พี่น้องประชาชน สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ช่วยกันกำชับลูกหลาน งด ซื้อ ประทัด ดอกไม้ไฟ เนื่องจากการเล่นประทัดและดอกไม้ไฟ จะก่อให้เกิดอันตราย โดยในปีที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัดและดอกไม้ไฟหลายราย  รวมถึงขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลสอดส่องพื้นที่ของตนเองเพื่อยับยั้งเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากผู้ที่ไม่หวังดีมาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อีกด้วย