นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมงาน E-SAN Life Drive พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง” ก่อนรับฟังภาคเอกชน 8 จังหวัดนำเสนอแนวคิดเพื่อการพัฒนาจังหวัด ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า ภาพกว้าง ๆ สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอีสานตอนล่าง โดยเฉพาะ 8 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ตามกรอบแผนพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2566 – 2570 นั้น ให้ทิศทางไว้ว่า จะต้องพัฒนาสู่การเป็น “ศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาใน 3 มิติ ซึ่งเขาใช้คำว่า “Green” “Gate” และ “Growth”

Green หมายถึง การเป็น “ฐานการผลิต” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นส่งเสริมเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ ขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือ Bio-Circular-Green economy เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
Gate หมายถึง การเป็นประตูเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้โอกาสจากการเชื่อมโยงเศรษฐกิจชายแดน ระเบียงเศรษฐกิจ พัฒนาการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และโลจิสติกส์

และ Growth หมายถึง การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนการพัฒนาศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากการท่องเที่ยวชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย
“ลองนึกถึงการทำเกษตรแนวใหม่ที่ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น แน่นอนเราต้องมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งในการเพาะปลูก ทั้งในการแปรรูป ให้ข้าว หอมแดง กระเทียม มันสำปะหลัง อ้อย และพืชเศรษฐกิจอื่น ๆของเรามีมูลค่ามากขึ้น หลังจากนั้น นึกภาพต่อถึงการส่งไปขาย ตลาดในประเทศเป็นอย่างไร ตลาดต่างประเทศส่งถึงไหม ตรงนี้ก็ต้องคิดถึงระบบการขนส่ง การลำเลียง และการเปิดตลาดที่เราจะสามารถทำราคาได้ดี ซึ่งความเข้าใจตลาดเป็นเรื่องสำคัญ จึงเป็นเหตุผลให้ผมต้องมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดูแลด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะ” นายอนุทิน กล่าว
สุดท้ายอย่าลืมต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างภาคบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งท่านจะต้องคิดว่าเป็นการขายประสบการณ์ หาไอเดียว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่มีอยู่ได้อย่างไร
“ที่บุรีรัมย์เมื่อ 3 วันก่อน ผมได้ไปร่วมพิธีเปิดงาน “Colors of Buriram” เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อ สืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” นี่คือหนึ่งตัวอย่าง ของการหยิบฉวยภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ แล้วเอามาต่อยอด ส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด จากการจัดงานแฟร์ได้อีก” ” นายอนุทิน กล่าว