ตร.ไซเบอร์จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง รวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์พนันออนไลน์หลายขบวนการ

87

ตำรวจไซเบอร์จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง รวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์พนันออนไลน์หลายขบวนการ

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหารระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวน จับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันเสาร์ที่ 15 มี.ค.68 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์รอง ผบช.สอท และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวตำรวจไซเบอร์จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง รวบเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์หลายขบวนการ

สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้แต่ละกองบังคับการ มีการการระดมจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการดำเนินการในทุกๆ เดือน อย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

และตำรวจไซเบอร์ได้มีการจับกุมในคดีอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทุกประเภท ได้แก่

  1. ปฏิบัติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า
    กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ได้สืบสวนทราบตัวผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า คือ นายสุมาน อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดสงขลา โดยจับกุมได้ที่ หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมของกลางหัว พอร์ต และนำยาบุหรี่ไฟฟ้า รวมกว่า 20 รายการ
  1. ปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการคอลเซ็นเตอร์
    2.1. กก.4 บก.สอท.4 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่ายหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ หลอกลงทุน และคอลเซ็นเตอร์น.ส.วิลาวัณย์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยจับกุมได้ที่หน้าแมนชั่นแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
    2.2. กก.1 บก.สอท.1 จับกุมนางสาวดาริกา อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดนครพนม เครือข่ายหลอกเป็น DSI ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน โอนออกทั้งหมด 3 บัญชี มูลค่ากว่า 1,179,478 บาท
    2.3. กก.3 บก.สอท.5 จับกุมนายบัณฑิต อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีในเครือข่ายหลอกลงทุน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ผู้ต้องหาให้การว่าขอกู้เงินผ่านเฟซบุ๊ก แต่ผู้กู้แจ้งว่าต้องเปิดบัญชีใหม่ และมาทราบภายหลังว่า ถูกนำบัญชีไปใช้
  2. การจับกุมพนันออนไลน์
    กก.4 บก.สอท.3 จับกุมนางสาวสุภาพร อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา “จัดให้มีการเล่นพนัน(ฟุตบอล) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลางหลายรายการ

เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ยังคงสืบสวนอย่างต่อเนื่อง และการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงิน และการใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงที่ถูกใช้ในคดีหลายกรณี ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาหลายรายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีปลอมและการทำธุรกรรมออนไลน์ในลักษณะหลอกลวง ซึ่งมีการทำงานเป็นระบบตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติการไปจนถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งการการดำเนินงาน

ทั้งนี้ ตำรวจไซเบอร์ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเพิ่มความระมัดระวังในการใช้บริการโทรศัพท์และการทำธุรกรรมออนไลน์ พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและไม่หลงเชื่อข้อความหรือข้อเสนอที่ดูไม่น่าเชื่อถือจากแหล่งที่ไม่รู้จัก

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ตร.ไซเบอร์#ข่าวอาชญากรรมวันนี้