เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่า ผู้ใช้ชื่อ #คดีโลกคดีธรรม”ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางโซเชียลไลน์ ต่อกรณี คุณนวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง ได้ออกมานั่งแถลงน้ำตานองหน้า ว่าจะไล่บี้ ฟ้องเอาผิดต่อ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ว่าสร้างหนี้ไว้ให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีใจความระบุว่า :
“คดีนี้ น่าจะฟ้องเพื่อไล่เบี้ยสมยศได้ยาก เพราะแม้ว่า สมยศ จะเป็นผู้แทนของสมาคมฯ ก็ตาม แต่ในการบริหารงานจะทำในรูปของมติของคณะกรรมการ ซึ่งอำนาจและหน้าที่ของ สมยศ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1. #สมยศบริหารจัดการได้คนเดียวเลย โดยไม่ต้องอาศัยมติของคณะกรรมการ การบริหารงานในส่วนนี้ สมยศจะตัดสินใจเพียงคนเดียว ซึ่งหากเกิดความเสียหายหากความเสียหายนั้นเกิดจากความประมาทของ สมยศ แบบนี้ สามารถใช้ มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ของ ป.พพ. #ฟ้องไล่เบี้ยเอากับสมยศได้ (เทียบ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2947/2523)
ส่วนที่ 2. #สมยศบริหารจัดการโดยอาศัยมติของคณะกรรมการ การบริหารงานในส่วนนี้ สมยศ ไม่มีอำนาจจัดการหรือตัดสินใจด้วยตนเอง ต้องฟังมติของคณะกรรมการ แล้วปฏิบัติหน้าที่ไปตามมติของคณะกรรมการ หากการปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการแล้วเกิดความเสียหาย กรณีนี้จะฟ้องไล่เบี้ยเอาแก่สมยศไม่ได้ #เพราะสมยศทำตามมติของคณะกรรมการ (เทียบ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 2095/2519)
ถ้าจะฟ้องไล่เบี้ย เอากับสมยศ เป็นการส่วนตัว ในกิจการที่สมยศ ทำตามมติของคณะกรรมการนั้น #จะต้องได้ความว่าสมยศมีอำนาจที่จะไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการได้ และต้องได้ความว่า #การตัดสินใจปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการนั้นเกิดจากความประมาทเลินเล่อ
#การยกเลิกสัญญากับทางสยามสปอร์ต เกิดจากมติของคณะกรรมการ #โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกสัญญากับสยามสปอร์ต สมยศในฐานะนายกสมาคม ทำตามมติของคณะกรรมการ โดยการยกเลิกสัญญากับทางสยามสปอร์ต
ต่อมาสายามสปอร์ต #ฟ้องคดีต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ (สัญญาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์) ซึ่งชนะคดีทั้ง 3 ศาล สุดท้ายศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พิพากษาให้สมาคมฯ จ่ายเงินให้สยามสปอร์ตเป็นเงินจำนวน 360 ล้านบาท
ถ้าจะฟ้องไล่เบี้ยสมยศเป็นการส่วนตัว จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงในคำฟ้องและตามทางนำสืบ 2 ประการ คือ
(1) สมยศ เลือกที่จะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการได้
(2) การตัดสินใจเลือกทำตามมติของคณะกรรมการ เกิดจากความประมาทเลินเล่อของสมยศ
#ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อนี้ ก็จะฟ้องไล่เบี้ยเอากับสมยศ โดยอาศัย มาตรา 76 วรรคหนึ่ง ของ ป.พพ. ไม่ได้
ดังนั้น #ถ้าสมยศจะต่อสู้คดี ก็ต้องต่อสู้ ว่า ตนเองต้องปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการเท่านั้น ไม่อาจจะเลือกไม่ปฏิบัติได้ หรือ ต่อสู้ว่าได้ตัดสินใจทำตามมติของคณะกรรมการโดยไม่มีความประมาทเกิดขึ้นในกระบวนการตัดสินใจ เพราะในเมื่อผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุให้เกิดความประมาทในการตัดสินใจได้
มาดามแป้งเองก็เช่นกันในการตัดสินใจฟ้องสมยศ ก็มาจากมติของคณะกรรมการ ซึ่งก็ใช้หลักการเดียวกัน ว่ามาดามแป้ง เลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการได้หรือไม่ ถ้าเลือกได้แล้วเกิดความประมาทขึ้นในกระบวนการตัดสินใจหรือไม่ หากสุดท้ายแพ้คดีให้กับสมยศและถูกสมยศฟ้องกลับ #ซึ่งมาดามแป้งก็อาจจะอ้างไม่ต่างกับสมยศ คือ ทำตามมติของคณะกรรมการ เช่นเดียวกัน ” ข้อความดังกล่าวระบุ
Cr. #คดีโลกคดีธรรม