ลือหึ่ง..!!! ”อ้างเป็นชุด ฉก.สอบสวนกลาง”ลุยจับปั๊มแก๊สทำผิดระเบียบ แต่เลือกปฎิบัติ

216

          ในแวดวงตำรวจต่างทราบกันดีว่าเมื่อมีหน่วยงานหรือกองบัญชาการตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมา ย่อมหมายความว่าผู้บังคับบัญชา มุ่งให้จัดการกับกลุ่มทำผิดกฎหมายแบบหน้างานเดียว พอบรรลุเป้าหมายชุดเฉพาะกิจจะถูกยุบหรือยกเลิกไป

            มีการแอบอ้างว่า กองบัญชาการหรือกองบังคับการได้ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมา ซึ่งถ้าจริงเป็นเสมือนดาบสองคม ถ้าทำงานตรงไปตรงมาไม่เลือกปฏิบัติ ผลดีจะเกิดกับส่วนรวม แต่ถ้าเลือกปฏิบัติจับเฉพาะที่ไม่ใช่พวกจะถูกครหา และอาจจะกลายร่างเป็นชุดเฉพาะเก็บในทันที ยกตัวอย่างการปราบปรามบ่อนการพนันหรือพนันออนไลน์ หากเจ้าของบ่อนหรือเจ้าของเว็บ เป็นพวกเดียวกับนายพลตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จะดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัว แต่ถ้าไม่ใช่พวกชุดเฉพาะกิจลุยไปจับกุม เมื่อบ่อนหรือเว็บพนันออนไลน์ถูกจับกุมบ่อยๆลูกค้าจะหันไปแทงกับเจ้ามือที่มีบิ๊กตำรวจสนับสนุน

    ทำให้บ่อนหรือเว็บพนันที่ถูกจับกุมบ่อยเจ๊งไปเอง แต่ส่วนใหญ่จะขอเข้าไปอยู่ในสังกัดและพร้อมจะจ่ายส่วยตามที่หัวหน้าชุดเฉพาะกิจหรือผู้บังคับบัญชาตั้งราคาไว้ หรือชุดเฉพาะกิจจัดระเบียบสถานบันเทิง หากดำเนินการตรงไปตรงมาแบบเท่าเทียมกันผู้ประกอบสถานบันเทิงพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ แต่สวนใหญ่จะเลือกปฏิบัติลุยจับที่ไม่ใช่พวกหรือที่ไม่ส่งส่วย สุดท้ายจบลงแบบต้องเคลียร์ เพื่อให้สถานบันเทิงเดินต่อได้ ทั้งบ่อนการพนันหรือพนันออนไลน์หรือสถานบันเทิงผิดกฎหมาย เพื่อความอยู่รอดมักจะมีตำรวจระดับสูง ทหารนายระดับสูง และคนโตฝ่ายปกครอง เป็นที่ปรึกษาเสมือนไม้กันหมาโดยมีผลประโยชน์ตอบแทน  


            ที่ยกมานำเสนอคือปรากฏการณ์ของธุรกิจสีเทา ค่อนข้างเฟื่องฟู ตลอดเวลา 8-9 ปี ในยุคที่เผด็จทหารครองเมือง ซึ่งพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวถูกนำมาใช้ในธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน ถ้าติดตามข่าวเกี่ยวกับการตั้งที่ปรึกษาของบริษัทเอกชนใหญ่ๆหรือกลุ่มทุนผูกขาด ทุกบริษัทจะมีชื่อนายพลตำรวจ นายพลหทาร เจ้าหน้าปกครอง ระดับสูง รวมถึง ข้าราชการระดับ ซี 8-10 ถูกจ้างเป็นที่ปรึกษาแทบทั้งสิ้น จะมีทั้งที่กำลังรับราชการและเกษียณอายุ

     ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย  บริษัทเหล่านั้นจะจ้าง นายพลตำรวจทั้งที่อยู่ในราชการและเกษียณอายุ เป็นที่ปรึกษาหรือบอร์ดบริหาร โดยเกษียณอายุจะพิจารณาจากประวัติรับราชการว่าผ่านงานแบบคุมกำลังหรือไม่และยังมีบารมีพอที่จะสั่งการตำรวจที่เคยเป็นผู้ใต้บังบัญชาให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่บริษัทต้องการหรือไม่

  ถ้ายังรับราชการอยู่จะเลือกนายพลสีกากีที่คุมกำลัง สามารรถสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกปฏิบัติหน้าที่ได้ในรูปแบบของชุดเฉพาะกิจ เพื่อสนองตอบให้กับบริษัท จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทต่างๆไปแล้ว  

      หากตั้งคำถามว่านายพลสีกาดีที่ถูกบริษัทต่างๆจ้างไปเป็นที่ปรึกษาหรือบอร์ด มีความผิดหรือไม่ คงตอบว่าไม่ผิดหากไม่เบียดบังเวลาราชการ และไม่ผิดหากบริษัทที่ว่าจ้างแจ้งเบาะแสว่ามีการทำผิดกฎหมายหากปล่อยไว้ จะส่งผลเสียต่อส่วนรวม ส่งกำลังไปจับกุมด้วย

      ขอยกตัวอย่างธุรกิจการซื้อขายแก๊สชนิดต่างๆไม่ว่าจะเป็นแก๊สแอลพีจี หรือเอ็นจีวี มีหลายบริษัทดำเนินการอยู่ แต่จะมีบริษัทใหญ่อยู่ประมาณ 3-4 แห่ง

   แหล่งข่าวในแวดวงค้าแก๊ส เผยถึงแนวทางการทำธุรกิจว่า เกือบทุกบริษัทแอบจำหน่ายแก๊สในลักษณะผิดระเบียบหรือฝ่าฝืนกฎหมาย อาทิ ใช้ถังอัดแก๊สที่หมดอายุการใช้งานนำมาอัดแก๊สลงถังส่งให้ร้านค้า หรือสถานีฯขายแก๊สให้ลูกค้านำถังที่ใช้ประจำในบ้านหรือร้านอาหาร บรรทุกรถมาให้สถานีฯอัดแก๊สลงถัง เพราะราคาถูกกว่าซื้อจากร้านขายแก๊สทั่วไป

    “จากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่บางบริษัทไม่พอใจเพราะยอดขายตก ทั้งที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ครั้นสู้ไม่ได้จะยืมเจ้าหน้าที่เดินสายจับกุมตามสถานีจำหน่ายแก๊สของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งชุดจับกุมอ้างว่าเป็นชุดเฉพาะกิจ จาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ที่ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งถูกต้อง “แหล่งข่าวระบุและว่าได้สอบถามกับผู้จัดการสถานีจำหน่ายแก๊สฯว่ามีคำสั่งแต่งตั้งแสดงหรือไม่ ผู้จัดการบอกว่าไม่ได้ขอดู แต่ขอดูบัตรประจำตัวของชุดจับกุมมีสัญลักษณ์ของตำรวจสอบสวนกลาง

   แหล่งข่าวคนเดิมระบุว่า พวกเราพร้อมที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจชุดจับกุมเพราะผิดระเบียบจริง แต่ขอเพียงอย่างเดียวว่าอย่าเลือกปฏิบัติ เพราะบริษัทที่แจ้งเบาะแสให้จับกุมนั้นมีพฤติกรรมทำผิดกฎระเบียบเช่นกัน แต่พอยอดขายตกกลับใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ ที่ตำรวจดำเนินการในทันทีเพราะมีข่าวลือว่าบริษัทดังกล่าวจ้างนายพลสีกากีบางคนเป็นที่ปรึกษารับเงินเดือนด้วย

  จากคำบอกเล่าจะมีข้อเท็จจริงมากน้อยแค่ไหน ต้องฝาก”ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง”ช่วยตรวจสอบทำความจริงให้กระจ่างด้วย ถ้าจริงถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเพราะใช้ถังแก๊สหมดอายุ

   แต่ขอวอนให้”ผบช.ก.”แอบสืบทางลับดูแล้ววอนกำชับชุดจับกุมดำเนินการแบบเท่าเทียม อย่าเลือกปฏิบัติกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพราะถ้าเลือกปฏิบัติ ชุดเฉพาะกิจอาจถูกมองว่าเป็นชุดเฉพาะเก็บก็เป็นได้ !!!