เรื่องไม่เป็นเรื่องเกิดขึ้นอีกแล้วในการเมืองไทย เมื่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นามว่า “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” ผู้ที่ยกมือไหว้อดีตนายกรัฐมนตรี นามทักษิณ ชินวัตรอย่างสนิทใจ หลังเจ้าตัวไปเยือนชายแดนใต้สัปดาห์ก่อน วันนี้ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มีท่อนหนึ่งปรากฎความว่า

“นายกรัฐมนตรีสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองด เว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดา เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”
ท่าน ประธานสภาผู้แทนราษฎร วันนอร์ ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การระบุรายชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหา ญัตติอาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถชี้แจงในที่ประชุมสภาได้ จึงขอให้ท่าน แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว โดยนำรายชื่อบุคคลภายนอกออกจากเนื้อหาญัตติ ตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 176 จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ
ถามคนไทยทั้งประเทศรู้ เผลอ ๆ คนทั่วโลกทราบดีว่าวันนี้การเมืองไทย มีนายทักษิณ เป็น สมการ สำคัญ และเจ้าตัวเองเคยเอ่ยปากว่าจะ ส.ท.ร. กับทุกคนทุกนโยบาย วันนี้เดินทางไปงานไหน “มีรัฐมนตรีรายล้อม” จนเริ่มสับสนแล้วว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่บริหารประเทศนี้อยู่ หรือมีบุตรสาวเป็นเพียงเด็กฝึกงานที่มีอำนาจเซ็นหนังสือเซ็นคำสั่ง แต่จะฟังอะไรให้ไปฟังที่ “คุณพ่อ”
เชื่อว่า “ดุลพินิจ”ของพี่น้องประชาชน ทุกคน จะรู้ดีว่า “บุคคลภายนอก” ผู้นี้มีความจำเป็นต่อการต้องนำมาพูดในสภา หรือนอกสภาหรือไม่ ทำไมมีอะไรก็ไปชอบไปคุยกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทุกคนรู้ ทั่วประเทศรู้ องค์กรอิสระ หรือคนที่มีหนี่ตรวจสอบการครอบงำ ไม่รู้! ดังนั้นการจะวิจารณ์การบริหารราชการแผ่นดินของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเศรษฐกิจ ตัวเลข ดัชนีชี้วัดต่างๆ ไม่ได้สะท้อนความอยู่ดีกินดีที่มีแนวโน้มที่ดีในสังคมนี้ และบุคคลดังกล่าวก็ประกาศเองว่าต้องการ “สทร.” เกี่ยวกับการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ต้องตรวจสอบได้!
ประเทศนี้ต้องเลิกให้ท้าย หรือเว้นวรรคการพูดความจริ งหรือพยายามหลีกหนี เลี่ยงการตรวจสอบจนติดเป็นนิสัย ถ้ากล้าให้ ส.ท.ร.ก็ต้องกล้าให้ตรวจสอบ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่บริหาร นำเงินภาษีทุบาททุกสตางค์ของประชาชนไปจัดสรร ขับเคลื่อนนโยบาย ทุกวันนี้ “นายทักษิณ” แทบจะทำหน้าที่ได้ดีกว่า โฆษกรัฐบาล หรือที่ปรึกษานายกฯทุกคนรวมกัน ตัวเองพยายามไปปรากฎในบ้านพิษณุโ,กก็ดี ไปปรากฎตามงงานกับ สส. กับรัฐมนตรี (จากหลายพรรคในรัฐบาลก็ดี) แบบนี้โจ่งแจ้งขนาดนี้ ประธษนสภา ยังจะอุตสาหะมาปกป้อง กลัว “เจ้านาย” ถูกรุมสับในสภา อันนี้ไม่ได้เรียกผู้ทรงเกียรติที่ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาการทำหน้าที่ตรวจสอบในสภา แต่เรียกได้ว่าเป็นผู้รักษา “เจ้านาย” ภักดี เทินทูน เคารพ บูชา และต่างมีผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ไม่รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่รู้สึกยางอายหรืออย่างไรที่กล้าโดดมาปกป้องขนาดนี้
ดีไม่ดีรอดูในสภาได้เลยครับว่าจะมีองครักษ์พิทักษ์นนายกฯ กี่คน ไม่ได้หมายถึง องครักษ์ นะครับ หมายถึงปกป้องนายกฯกี่คน ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ เศรษฐา มาแพทองธาร เผลอๆ อุ้มไปยังพลเอกประยุทธ์ให้ด้วย
ประเทศนี้ต้องเลิกพูดอ้อมๆ ต้องพุ่งเป้าแก้ปัญหาให้ตรงจุด ถ้ากล้า ส.ท.ร.กล้าเสนอหน้า กล้า เรียกรัฐมนตรีไปห้อมล้อม ต้องกล้าให้ตรวจสอบพิสูจน์ให้คนจะได้ติดตามการอภิปรายได้อย่างตรงไปตรงมา ครับ ถ้าบริสุทธิ์ใจ เว้นแต่ท่านคิดไม่ซื่อเท่านั้นแหละ!


