บุรีรัมย์ เลือกตั้งท้องถิ่นดุเดือดฐานเดิมเจอฐานใหม่ เจ้าถิ่นมั่นใจนโยบาย
เลือกตั้งเทศบาลหนองกี่ดุเดือด สมาชิกพรรคประชาชน อดีตผู้สมัคร สส.ย้อนมาสมัครสู้ นายกเทศฯกับอดีตนายกฯคนเก่า หวังเอาคะแนน สส.ที่เคยได้มากในพื้นที่จะเอาชนะได้ ขณะอดีตนายกฯคนเดิมไม่หวั่นเลือกท้องถิ่นเพราะต่างจากการเมืองใหญ่ มั่นใจนโยบายเดิมประชาชนเข้าใจง่ายไม่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดที่เป็นไปไม่ได้
วันที่ 16 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่จังหวัดบุรีรัมย์ คึกคักในหลายพื้นที่มีทั้งการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)บุรีรัมย์ และนายก อบต.และนายกเทศบาลอีกหลายพื้นที่ ที่เริ่มหมดวาระลง
เช่นเดียวกับการเลือกตั้งนายกฯและสมาชิกเทศบาลตำบลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ที่หมดวาระลงและจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 16 ก.พ.68 นี้บรรยากาศการแข่งขันคึกคักไม่แพ้การเลือกตั้ง อบจ.บุรีรัมย์
มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลฯ2 คือเบอร์ 1 คือนางสาวนันทนิตย์ จิตนักแน่น หรือ “นายกฯ จอย” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ สมัยที่ผ่านมา ในนามทีมกลุ่ม “ฅนพัฒนาหนองกี่” กับเบอร์ 2 คือนายสุพิศ คิดรอบ หรือ ‘ดีเจ เซียงช้าง’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคก้าวไกล ครั้งที่ผ่านมา สมัครเป็นนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ ในนามกลุ่ม ‘รักษ์หนองกี่’
การหาเสียงแต่ละทีมเป็นไปด้วยความดุเดือด ฝั่งพรรคประชาชน มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งได้ เพราะครั้งที่ลงสมัคร สส.ในนามพรรคก้าวไกล เฉพาะในพื้นเขตพื้นที่เทศบาลตำบลหนองกี่ พรรคก้าวไกล มีคะแนนนำพรรคภูมิใจไทย แต่ภาพรวมในการเลือกตั้ง สส.ครั้งนั้น นายสุพิศ ลงสมัคร เขตเลือกตั้งที่ 7 ได้คะแนน 18,535 คะแนน ส่วนผู้ชนะเลือกตั้งได้คะแนน 28,685 คะแนน
นางสาวนันทนิตย์ จิตนักแน่น หรือ “นายกฯ จอย” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองกี่ สมัยที่ผ่านมา กล่าวว่า จอยพร้อมลงสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้งเพื่อรับใช้พี่น้องชาวหนองกี่อย่างเต็มที่ จอยทำงานได้ทันทีให้หนองกี่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง หนองกี่ต้องเจริญแบบก้าวกระโดด สมเป็นเมืองหน้าด่านประตูสู่อีสานใต้และประตูสู่เมืองบุรีรัมย์ ”
ที่ผ่านมาประชาชนชาวหนองกี่พร้อมทั้งพื้นที่ข้างเคียงได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจนไม่ว่าจะเป็นถนน ,ไฟไฮแมสส่องสว่าง ,ความปลอดภัยในการจราจรและทรัพย์สินโดยนโยบายการติดตั้งกล้อง CCTV แทบจะครอบคลุมทั่วพื้นที่หนองกี่ ล่าสุด ได้ผลักดันให้เป็นเมืองท่องเที่ยว พื้นที่พักผ่อน โดยสร้างแลนด์มาร์คให้แก่ประชาชนอำเภอหนองกี่ สามารถขอรับงบประมาณจากกรมโยธาธิการและผังเมืองปี 68 เป็นจำนวน 80 ล้านบาท
การเลือกตั้งครั้งนี้ตนไม่หวั่นถึงแม้จะเอาคะแนนเมื่อครั้งการเลือกตั้ง สส.จะชนะในเขตเทศบาลหนองกี่ ก็ตามครั้งนั้นเป็นการเมืองใหญ่ ส่วนเฉพาะพื้นที่เทศบาลหนองกี่ เชื่อว่าประชาชนเห็นการเดินหน้าแบบก้าวกระโดด การที่ใครคนหนึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนทั้งระบบในคราวเดียว เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้จะต้องคำนึงถึงประชาชนด้วย ..นายกจอย…กล่าว