ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) วันที่ 13 ม.ค. นายรัศม์ ชาลีจันทร์ (ทูตรัศม์) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับหนังสือจากคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อขอให้กระทรวงฯ ประสานการอนุญาตให้คณะกรรมาธิการฯ ซึ่งนำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ได้เข้าเยี่ยมลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่เรือนจำเกาะสอง ในวันที่ 13 ม.ค. ช่วงเวลา 13.00 – 16.30 น.ว่า กต. ได้สั่งการในวันเดียวกันหลังที่ได้รับหนังสือ ให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงย่างกุ้ง นำส่งคำขอของคณะกรรมาธิการฯ ให้ทางกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาพิจารณา โดยล่าได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ว่า ฝ่ายเมียนมาได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยได้อนุญาตให้คณะกรรมาธิการการทหารฯ เข้าเยี่ยมคนไทย 4 คนที่เกาะสองได้ตามที่ขอ จึงขอขอบคุณฝ่ายเมียนมา ที่ช่วยประสานงานอย่างรวดเร็ว
ทูตรัศม์ ย้ำว่า กต.ไม่เคยนิ่งนอนใจต่อความเดือดร้อนของประชาชน เพราะทันทีที่เกิดเหตุไม่ว่าจะเป็นที่ใดของโลก กระทรวงฯ ได้ทำหน้าที่อย่างทันท่วงที และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเสมอ เพียงแต่ไม่เคยคำนึงว่า จะต้องประชาสัมพันธ์ในสิ่งที่ดำเนินการมาตลอดเวลาเท่านั้น เช่น กรณีการให้ความช่วยเหลือลูกเรือไทยทั้ง 4 คน ก็มีการจัดการให้ญาติของลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน ได้เข้าเยี่ยมที่เรือนจำเกาะสองแล้ว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ดำเนินการประสานฝ่ายเมียนมา เพื่อขอให้ครอบครัวของลูกเรือประมงทั้ง 4 คน ได้เข้าเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาแล้ว และเมื่อได้รับคำร้องจากลูกเรือประมงในการขอเข้าเยี่ยม กระทรวงฯ และสถานเอกอัครราชทูต ก็ดำเนินการทันที ซึ่งฝ่ายเมียนมา ได้อนุญาตให้ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมด้วยตัวแทนของครอบครัวลูกเรือประมง จำนวน 1 คน เข้าเยี่ยมลูกเรือประมงทั้ง 4 คน เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา รวมทั้งผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้มอบชุดยาสามัญประจำบ้านไว้สำหรับลูกเรือทั้ง 4 คน ตามที่ครอบครัวของลูกเรือประมงได้ร้องขอรวมทั้งประสานงานกับทางเรือนจำ ขอให้ช่วยดูแลสุขภาพลูกเรือ 4 คน เนื่องจากมีอายุมากและมีโรคประจำตัว
เจ้าของเพจทูตนอกแถว ยังย้ำว่า กต.ได้เร่งดำเนินการทุกอย่างควบคู่กันไป ทั้งการช่วยเหลือให้ลูกเรือได้รับการปล่อยตัว และการวางมาตรการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งจะต้องหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกับฝ่ายเมียนมาต่อไป พร้อมยังเห็นว่า หากจะมีการนำเรื่องเหล่านี้ มามุ่งเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง โดยเฉพาะการทำให้เข้าใจว่า กระทรวงฯ ไม่ให้ความร่วมมือ หรือเพิกเฉยดูดายในการช่วยเหลือคนไทยนั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด และอาจเป็นการส่งสัญญาณที่คลาดเคลื่อน ที่จะทำให้การแก้ไขปัญหา ยิ่งยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน
ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 13 ม.ค. กต. เพิ่งแจ้งให้ กมธ.ทหารฯ ทราบว่า ทางเมียนมาเพิ่งจะอนุญาตให้ กมธ.ทหาร เข้าเยี่ยมลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน ที่เกาะสองได้ ในวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งเป็นการแจ้งหลังจากที่ กมธ.ทหารฯ ได้ขอเลื่อนกำหนดการการเดินทางออกไปแล้ว เพราะกำหนดการการเดินทาง ที่ กมธ.ทหาร มีมติตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.67 และได้รับการอนุมัติการเดินทางจากประธานสภาฯ คือ 13-14 ม.ค. ซึ่งทาง กมธ.ทหาร ได้รอการยืนยันจากทาง กต. จนถึงช่วงบ่ายของวันที่ 12 ม.ค. เมื่อได้รับแจ้งจากทาง กต. ว่ายังไม่ได้รับการยืนยันจากประเทศเมียนมา ทาง กมธ.ทหาร จึงจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการออกไปก่อน และกรรมาธิการแต่ละท่าน ก็ได้ปรับเปลี่ยนตารางงานของตนเองหมดแล้ว ครั้นเมื่อทราบกระทันหันว่าให้ไปเยี่ยมลูกเรือประมงไทยได้ในวันที่ 14 ม.ค.68 กมธ.ทหาร จึงไม่สามารถดึงกำหนดการที่แจ้งเลื่อนออกไปแล้วให้กลับมาใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม กมธ.ทหาร ได้ประสานกับทาง กต. ให้เร่งกำหนดวันใหม่ เพื่อที่ทาง กมธ.ทหาร จะได้เร่งออกเดินทางไปเยี่ยมลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน โดยเร็วที่สุด