สมาคมศิษย์เก่าบวรมงคล น้อมรำลึก เนื่องในวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

102

ข้าพระพุทธเจ้า สมาคมศิษย์เก่าบวรมงคล และสมาชิกฯรวมถึงศิษย์เก่าโรงเรียนวัดบบวรมงคลทุกคน ต่างน้อมจิตตั้งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ ด้วย วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี

วันที่ 28 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชจากพม่าให้แก่ประเทศไทย และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรีเพียงพระองค์เดียว สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงมีพระนามเดิมว่า “สิน” (ชื่อจีนเรียกว่า “เซิ้นเซิ้นซิน) พระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2277 พระราชบิดาเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ชื่อ “นายไหฮอง” ได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ”นางนกเอี้ยง” ในช่วงรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (สมเด็จพระธรรมราชาธิราชที่ 3)  ซึ่งเจ้าพระยาจักรีได้ขอไปอุปการะเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ต่อมาเมื่ออายุครบ 13 ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำตัวเด็กชายสิน ไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ครั้น พ.ศ. 2301 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรเสด็จขึ้นครองราชย์ได้ 3 เดือนเศษ ก็ถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราช “สมเด็จพระบรมราชาที่ 3” (สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์) สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นายสินมหาดเล็กรายงาน เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราพระราชสีห์ไปชำระความที่หัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งปฏิบัติราชการได้รับความดีความชอบมากจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงยกกระบัตร เมืองตาก ช่วยราชการพระยาตากครั้นพระยาตากถึงแก่กรรม ก็ทรงโปรดให้เลื่อนเป็น “พระยาตาก ปกครองเมืองตาก” พระราชกรณียกิจสำคัญของพระเจ้ากรุงธนบุรี

1. การกู้เอกราช  เมื่อปี พ.ศ. 2309  พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา  ในสมัยพระเจ้าเอกทัศ  และได้เสียกรุงแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310  เหตุการณ์ในกรุงศรีอยุธยาขณะนั้นเกิดความระส่ำระสาย  ทหารพม่าได้ล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้  พระยาตากเห็นว่าคงสู้พม่าไม่ได้แล้ว  จึงนำทหารจำนวนหนึ่งตีฝ่าวงล้อมพม่าออกมา  และได้รวบรวมกำลังอยู่ที่เมืองจันทบุรี  แล้วยกทัพกลับไปตีพม่าที่กรุงศรีอยุธยา  ทัพของพระยาตากสามารถตีพม่าจนแตกพ่ายไป  พระยาตากสามารถรวบรวมผู้คนกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่าได้ภายในเวลา 7 เดือน

2. การสร้างและสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง  หลังจากได้กอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนจากพม่าได้แล้ว  พระองค์ทรงเห็นว่าทางกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเผาผลาญเสียหายมากและยากที่จะ ฟื้นฟูให้เจริญเหมือนเดิมได้  พระองค์จึงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่กรุงธนบุรี  แล้วทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์  ทรงพระนามว่า  พระบรมราชาธิราชที่ 4 ครองกรุงธนบุรีอยู่ 15 ปี  นับว่าเป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ปกครองกรุงธนบุรี

3. พระราชกรณียกิจอื่น ๆ นอกจากจะทรงกู้เอกราชและทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวงแล้ว  พระองค์ยังได้ขยายอาณาเขตโดยตีเวียงจันทน์ได้และอัญเชิญพระแก้วมรกตมา ประดิษฐานไว้ที่เมืองหลวง  ทรงทำนุบำรุงศาสนาและทรงส่งเสริมให้คนแต่งหนังสือต่าง ๆ ขึ้น  เพราะหนังสือตำราอันมีค่าถูกพม่าเผาไปเกือบหมด  ทรงเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นอย่างดีแม้ว่าจะต้องทำสงครามกับพม่า ตลอดเวลาก็ตาม

คณะรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่พระองค์ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เป็น “วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน” และถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เพื่อยกย่องพระองค์เป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย ผู้กอบกู้เอกราชให้ชาติไทย และได้สร้างอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงเครื่องขัตติยาภรณ์ ประทับเหนืออัศวราชพาหนะ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ประดิษฐานบนแท่งคอนกรีตเสริมเหล็ก ณ บริเวณวงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี  

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#สมาคมศิษย์เก่าบวรมงคล#พระเจ้าตากสินมหาราช