สร.1 ต้องมอบดาบ ให้ ผบ.ตร.ต่าย ให้จัดทัพสีกากี รับมือแนวโน้มอาชญากรรมปีหน้าพุ่ง! แนะยึดแนวทางขยับขึ้นในหน่วย

1618

     จากภัยธรรมชาติถล่มภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนพังเสียหาย ประชาชนนับพันคนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว บวกกับภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง  ชาวบ้านมีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าตั้งแต่ปลายปี 2567 ย่างเข้าสู่ปี 2568 ปัญหาอาชญากรรมน่าจะพุ่งสูงขึ้น

      แม้แต่ห้วงเวลานี้อาชญากรรมประเภทลัก วิ่ง ชิง ปล้น ยังเกิดอย่างต่อเนื่องพร้อมๆกันหลายพื้นที่ ยังไม่นับรวมถึงอาชญากรรมอื่นๆ อาทิ แก๊งทวงหนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์หรือการฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆผุดให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

      บทหนักจะตกที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ในฐานะแม่ทัพหลักที่ต้องนำทัพสีกากีรับมืออาชญากรรมทุกรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข แต่รัฐบาลต้องจัดเครื่องมืออันสำคัญให้นั่นคือการมอบอำนาจเต็มเพื่อจัดทัพสีกากีไว้รับมือ

  เพราะต่างทราบกันดีว่า หาก”ผบ.ตร.”ไม่มีอำนาจพอที่จะบริหารจัดการเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายตั้งแต่ระดับผู้บังคับการ(ผบก.-สารวัตร(สว.)ได้ ไม่สามารถที่จะสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามนโยบายที่วางไว้ได้เลย มีตัวอย่างให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วในยุคที่นายพลเด็กมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายเหนือ ผบ.ตร.


       ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) จะเป็นตัวช่วยอันสำคัญที่จะทำให้แนวทางนี้เกิดขึ้นได้ เพราะนับแต่การแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ(ผบช.) ที่ยึดกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ล้วนเกิดจากการเคลื่อนไหวของ ก.ตร.เป็นสำคัญ

    หากนายกรัฐมนตรีปล่อยอำนาจแบบเต็มๆให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จัดทัพจริง จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สำนักปทุมวันที่ฝ่ายการเมืองยอมปล่อยมือ จะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะสามารถจัดคนให้ถูกกับงานได้

   แต่การจัดทัพสีกากีครั้งนี้จะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมาเพราะถูกกฎหมายและกฎการแต่งตั้งโยกย้ายบังคับให้ลากยาว การแต่งตั้งให้ครบทุกตำแหน่งจะเสร็จสิ้นเดือนมีนาคม 2568 ส่งผลให้แต่ละตำแหน่งมีเวลาปฏิบัติหน้าที่เพียงไม่กี่เดือนจะเข้าสู่ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายอีก

     เพื่ออุดช่องว่างไม่ให้เกิดความเสียหายในการปฏิบัติหน้าที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ควรจะยึดแนวทางแต่งตั้งโยกย้ายแบบขยับขึ้นในหน่วยที่สังกัด อาทิ รอง ผบก.ภ.จว.คุณสมบัติครบและถูกแต่งตั้งให้รักษาการฯ ควรที่จะแต่งตั้งให้เป็น ผบก.หรือ รองผู้กำกับการ(ผกก.)นั่งรักษาการหัวหน้าโรงพัก มีคุณสมบัติครบ ควรแต่งตั้งให้เป็น ผกก.หัวหน้าโรงพัก หรือสารวัตร(สว.) มีคำสั่งให้รักษาการ รองผกก.ถ้ามีคุณสมบัติครบ แต่งตั้งให้เป็นรอง ผกก. หรือ รอง สว. รักษาการ สว.มีคุณสมบัติครบให้แต่งตั้งเป็น สว.

    แนวทางนี้เหมาะสมกับการแต่งตั้งตำรวจที่คุมพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น ผบก.ภ.จว. ผบก.น.1-9  ผบก.สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ผบก.สังกัดตำรวจไซเบอร์ หรือ ผกก.หัวหน้าโรงพักทั้งภูธรและนครบาล ผกก.บช.ก.และใผกก.ไซเบอร์ รวมถึงระดับ รอง ผกก.และ สว.

    เพราะจากที่ประเมินไว้ว่าแนวโน้มอาชญากรรมจะพุ่งสูงขึ้นบวกกับระยะเวลาที่กระชั้น เพราะถูกกำหนดด้วยกฎหมาย หากแต่งตั้งโยกย้ายจากหน่วยอื่นมานั่ง ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ข้อมูลต่างๆในพื้นที่ เรียนรู้อุปนิสัยการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา เรียนรู้พฤติกรรมของผู้บังคับบัญชา และเรียนรู้วัฒนธรรมและพฤติกรรมของชาวบ้านในพื้นที่ กว่าจะลงมือปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายได้ต้องกินเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน

    แต่ถ้าพิจารณาแต่งตั้งจากตำรวจภายในหน่วยที่มีคุณสมบัติครบ พฤติกรรมดี จะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่เกิดขึ้นได้ฉับไว เพราะไม่ต้องไปตั้งหลักศึกษางานกันใหม่ แถมจะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ได้มีความก้าวหน้าอีกต่างหาก และกฎหมายได้กำหนดไว้ด้วยว่าการพิจารณาแต่งตั้งให้แต่ละหน่วยร่วมประชุมเพื่อพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งโยกย้ายอยู่แล้ว

รวมถึงจะช่วยขจัดปัญหาการวิ่งเต้นของสีกากีบางคนบางกลุ่มที่ต้องการจะได้ตำแหน่งพื้นที่ทำเลทองเพื่อแสวงประโยชน์ รวมถึงสะกัดตั๋วฝากทั้งจากนักการเมืองและผู้มีอิทธิพลในวงการต่างๆได้อีกด้วย

ดังนั้นถ้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่าเป็นผู้จัดการรัฐบาลแบบตัวจริงเสียงจริง ยอมปล่อยมือให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จัดทัพสีกากีโดยยึดแนวทางให้ตำรวจที่คุณสมบัติครบเติบโตในหน่วยงาน เชื่อว่าผลดีจะตกกับประชาชนที่ได้คนรู้งาน รู้ปัญหา มาบริการ ทำงานได้ทันทีหลังแต่งตั้งเสร็จ เพราะอาชญากรไม่เคยรอเวลาที่จะก่ออาชญากรรม

แนวทางที่นำเสนอ”ประดู่แดง”มิได้คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นจริงเพราะผู้มีอำนาจมักจะหวงอำนาจเสมอและไม่เคยเกิดขึ้นในแวดวงสีกากีเลย เพียงแต่น่าจะเป็นเลือกหนึ่งในจังหวะที่การแต่งตั้งถูกกำหนดด้วยระยะเวลา แต่งตั้งเสร็จตำรวจได้ทำงานทันที และอีกไม่กี่เดือนจะถึงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายใหม่แล้ว !!!