ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดคาถนนพระรามสอง ของกลางกว่าห้าล้านเม็ด มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว,
พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม, พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ, พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์,พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุม นายวิทยา หรือเล็ก อายุ 46 ปี
เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนพระรามสองขาออก ย่านตำบลนาโคก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2567 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง
ได้จับกุมตัวนายอมร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 1 และ นายวีระพงศ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมด้วยของกลางยาบ้า ประมาณ 13 ล้านเม็ด ขณะใช้รถบรรทุกไม่ประจำทาง(เทรลเลอร์) ขับขี่ลำเลียงมาบริเวณถนนทางหลวงเพชรเกษม (ขาล่องใต้) ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาชุดสืบสวนของกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติด จนทราบแผนประทุษกรรมของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดข้างต้น พบว่าเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนประกอบด้วย
- กลุ่มผู้สั่งการ
- กลุ่มลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือ (นักบินสายเหนือ) ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดลงมาพักไว้ในโกดังเก็บยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง
- กลุ่มจัดหา เช่า ดูแลโกดังเก็บยาเสพติด
- กลุ่มลำเลียงยาเสพติดจากโกดังเก็บยาเสพติดลงไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ (นักบินสายใต้)
โดยในคดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล แต่ชุดสืบสวนเชื่อว่าปัจจุบันเครือข่ายดังกล่าวยังคงลักลอบค้ายาเสพติดอยู่ จึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่าปัจจุบันนายวิทยาฯ (ผู้ถูกจับ) น่าจะเป็นบุคคล
ทำหน้าที่แทน นายอมรฯ และนายวีระพงศ์ฯ ในการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ จึงเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเครือข่ายดังกล่าวมาโดยตลอด
จนกระทั่งในวันที่ 25 พ.ย.67 นายวิทยาฯ ได้ขับรถบรรทุกสิบล้อ ขึ้นมาจากภาคใต้ ชุดสืบสวนจึงตามสะกดรอยจนพบว่านายวิทยาฯ ได้ขับรถฯ เข้าไปยังโกดังให้เช่าต้องสงสัย ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อนายวิทยาฯ ขับรถฯ ออกจากโกดังฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สะกดรอยติดตามไป จนมาถึงบริเวณสถานที่จับกุม และแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นสิ่งของที่บรรทุกท้ายรถ ผลการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุอยู่ในประสอบปุ๋ยกว่า 25 กระสอบ รวมจำนวนประมาณ 5 ล้านเม็ด ซุกซ่อนโดยใช้กระสอบปุ๋ยดินวางทับเพื่อปกปิดอำพราง โดยหากยาบ้าเหล่านี้ถูกจำหน่ายออกไป จะมีมูลค่ามากกว่า 150 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมพร้อมยาบ้าของกลาง และรถบรรทุกสิบล้อ นำใส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในส่วนเครือข่ายผู้กระทำความผิด ทั้งในส่วนของกลุ่มผู้สั่งการ, กลุ่มนักบินสายเหนือ, กลุ่มจัดหา เช่า ดูแลโกดังเก็บยาเสพติด, กลุ่มนักบินสายใต้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลเพื่อติดตามจับกุมต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายวิทยาฯ ให้การว่าได้รับจ้างขนยาบ้ามาแล้ว 6 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน ได้รับค่าจ้างครั้งละ 150,000 บาท ถึง 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณยาบ้าที่ลำเลียงไปส่งให้เครือข่ายพื้นที่ภาคใต้