ตำรวจเตรียมประสานตำรวจสากล ออกหมายแดง ตามจับ “หมอบุญ” หลังออกนอกประเทศตั้งแต่เดือน ก.ย. พร้อมหาหลักฐานและตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากสาวถึงใครจะออกหมายจับเพิ่มทันที
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวถึงการติดตาม นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จากกรณีหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการใหญ่ สูญเงินรวมกว่า 7,500 ล้านบาท ว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าหมอบุญ เดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังประเทศจีน ตั้งแต่เดือนกันยายนนั้น จะต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจนก่อน แต่เชื่อว่ามีการเตรียมการล่วงหน้า โดยระหว่างนี้กองการต่างประเทศ อยู่ระหว่างจัดทำหมายแดง และประสานตำรวจสากล เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งหากประเทศใดมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยในส่วนของประเทศจีนนั้น มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันอยู่ อีกทั้งที่ผ่านมาระหว่างสองประเทศมีความร่วมมือด้านต่างๆ ร่วมกันเป็นอย่างดี
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบหลักฐานพาดพิงถึงใคร ก็จะมีการออกหมายจับเพิ่ม ส่วนที่มีการตั้งข้อสงเกตว่าหมอบุญ อายุมากแล้ว จะเอาเงินจำนวนมากไปทำอะไร ซึ่งอาจจะมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมนั้น ย้ำว่าหากตำรวจพบใครเกี่ยวข้อง ก็จะออกหมายจับเพิ่มแน่นอน
เมื่อถามว่าภรรยาหมอบุญอ้างว่าถูกปลอมแปลงเอกสารลายมือชื่อ ก่อนมีการฉ้อโกงประชาชนนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งช่วงเวลาหย่าร้าง การประกาศโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การเซ็นสัญญาการกู้ยืมเงิน การลงลายมือเป็นพยาน รวมถึงเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ผู้เสียหายโอนเงิน ทั้งเงินสด เช็ค และมีการโอนออกไปให้ใคร ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ตรวจสอบคดีตั้งแต่ปี 2566 ที่มีการแจ้งความคดีเกี่ยวกับเช็ค ว่าเหตุใดถึงล่าช้า แต่เมื่อถึงช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2567 เป็นต้นมา กลับพบว่าเริ่มมีผู้เสียหายมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จนเชื่อว่าไม่ใช่เพียงคดีเช็คหรือกู้ยืมเงิน อีกทั้ง เมื่อตรวจสอบสิ่งก่อสร้างตาม 5 โครงการที่กล่าวอ้าง กลับไม่มีอยู่จริง จึงเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และการโฆษณาชวนเชื่อ ตนจึงเร่งรัดให้มีการออกหมายจับหมอบุญ และผู้เกี่ยวข้องรวม 9 ราย พร้อมเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งหากประชาชนรายใดได้รับความเดือดร้อน หรือเป็นผู้เสียหาย ขอให้รีบมาแจ้งความทันที