ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า วันนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มาชี้แจงประเด็นข้อสงสัยและข้อพิรุธในกรณีการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 3,600 เมกะวัตต์ แต่ทั้ง สนพ. และ กกพ. แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการฯ ได้ โดยไม่ส่งผู้แทนหรือข้อมูลใดๆ มาประกอบการพิจารณา
สิทธิพล กล่าวว่า ประเด็นการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 3,600 เมกะวัตต์มีความเกี่ยวข้องกับต้นทุนของผู้ประกอบการและค่าไฟฟ้าของประชาชนในอนาคต ตลอดจนกระทบความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กมธ. พัฒนาเศรษฐกิจที่จะต้องพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง ขอให้สังคมช่วยกันติดตามอย่างใกล้ชิดต่อความพยายามหลีกเลี่ยงการมาชี้แจงตามคำเชิญของคณะกรรมาธิการฯ โดยมีข้อสงสัยและข้อพิรุธ 4 ข้อ คือ 1.ไม่มีการประมูล ส่งผลให้ค่าไฟดีสำหรับนายทุน แพงสำหรับประชาชน ตลอดอายุสัญญา 25 ปี 2.ไม่ประกาศหลักเกณฑ์คำนวนคะแนนคัดเลือก เปิดให้มีการใช้ดุลพินิจ จนสังคมตั้งข้อสงสัยว่าสามารถล็อกผู้ชนะได้หรือไม่ 3.ล็อกโควตา ให้เอกชนที่ยื่นโครงการในปี 2565 ได้สิทธิก่อน และ 4.อ้างพลังงานสะอาด แต่ไม่ตรงกับความต้องการ RE100 ของเอกชน ซํ้าเติมรัฐให้ซื้อไฟฟ้าเกินความจำเป็น
ประธาน กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวาระกระทู้สดของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 มีการให้ข้อมูลว่า ถ้าโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 3,600 เมกะวัตต์นี้เดินหน้าต่อ จะทำให้ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายมีต้นทุนแพงกว่าที่ควรจะเป็นมากขึ้น 4,162 ล้านบาทต่อปี หรือ 104,050 ล้านบาทตลอดอายุสัญญา 25 ปี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตอบชี้แจงในสภาฯ ว่าได้สั่งให้มีการทบทวนโครงการดังกล่าวแล้ว โดยจะต้องมีการเปิดประมูลอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
นายสิทธิพลกล่าวว่า เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและความเป็นธรรมต่อหน่วยงานข้างต้น กมธ. พัฒนาเศรษฐกิจจะส่งหนังสือเชิญทั้ง 2 หน่วยงานเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการฯ อีกครั้ง ในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ในโอกาสนี้จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมประชุมเพื่อหารือและชี้แจงความคืบหน้าในประเด็นที่รัฐมนตรีชี้แจงต่อสภาฯ ถึงการแก้ไขเงื่อนไขการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ด้วย จึงขอให้สื่อมวลชนและประชาชนเฝ้าติดตามวาระการประชุมในวันดังกล่าวอย่างใกล้ชิด