ก้าวไปอีกขั้น! คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และ ม.หัวเฉียวฯร่วมกับ 5 สถาบันฯแพทย์แผนจีนชั้นนำจากจีนเปิดนวัตกรรม AI

243

ก้าวไปอีกขั้น! คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และ ม.หัวเฉียวฯร่วมกับ 5 สถาบันฯแพทย์แผนจีนชั้นนำจากจีนเปิดนวัตกรรม AI

สุดล้ำครั้งใหม่ของศาสตร์การแพทย์แผนจีน ครั้งแรกในเมืองไทยในงาน “ก้าวล้ำ คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเดียวพัฒนาการที่ไม่หนิง ครั้งที่ 2”

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่า คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ หน่วยงานภายใต้มูลนิธิปอเต็กดึงผนึกกำลังร่วมกับ 5 สถาบันการแพทย์แผนจีนชั้นชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเซี่ยงไฮ้, โรงพยาบาลหลงหัว นครเชี่ยงไฮ้, มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเฉิงตู, มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฝูเจี้ยน และมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเทียนจิน เปิดตัวนวัตกรรมครั้งใหม่ของศาสตร์การแพทย์แผนจีนในงาน “ก้าวล้ำ คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว พัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง ครั้งที่ 2”

ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมแลเทคโนโลยีล่าสุด ของการประเมินผลสุขภาพด้วยการแพทย์แผนจีน ผ่าน 2 นวัตกรรมใหม่”กระจก AI ตรวจโรคอัจฉริยะ” และ “หุ่นยนต์ AI เช็คสขภาพเสียวคัง” ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกิจกรรมให้ความรู้เวทีเสวนา และการให้บริการตรวจสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนฟรีตลอดทั้งงาน เมื่อวันที่ 18-19 ตุลาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์

โดยงานในครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จและความก้าวหน้าของศาสตร์การแพทย์แผนจีนของคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว และมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันการแพทย์แผนจีนชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้ง 5 สถาบัน โดยงาน “ก้าวล้ำ คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง ครั้งที่ 2” ได้รับเกียรติจากนายพิชัย นริพทะพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์,นายอู๋ จื่ออู่ อัครราชทูตสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทศไทย,ดร.วิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป้อเต็กตึง พร้อมด้วยนายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ผู้อำนวยการคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ให้เกียรติร่วมในพิธีเปิดงานในครั้งนี้

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมเปิดงาน “ก้าวล้ำคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง ครั้งที่ 2″ในครั้งนี้ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมการแพทย์แผนจีนในประเทศไทย เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยค่าบริการที่เป็นธรรม การแพทย์แผนจึงไม่เพียงแต่เป็นศาสตร์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาแต่ยังถือเป็น Soft Power ที่ทรงคุณค่า มีเอกลักษณ์ และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในหลายมิติและการที่คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวได้รับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากสถาบันขั้นนำของสาธาธารณรัฐประชาชนจีนจะทำให้คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์แผนจีนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทยและเป็นศูนย์กลางสมุนไพรในภูมิภาคอาเชียนต่อไป จึงขอแสดงความยินดีกับคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวที่มีความมุ่งมันพัฒนาอย่างไม่หยุดยัง พร้อมสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในการดูแลสุขภาพผ่านศาสตร์การแพทย์แผนจีนและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ

นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้อำนวยการคลิลินินิการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว กล่าวว่า กว่า 29 ปีที่ผ่านมาที่คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวได้ก่อตั้งขึ้น ด้วยเจตนารมณ์ที่จะนำความรู้และประสบการณ์ด้านการแพทย์แผนจีนมาช่วยแก้ปัญหาสุขภาพของประชาชนชาวไทยด้วยมาตรฐานระดับสากลและค่าบริการที่เป็นธรรม จนปัจจุบัน ได้พัฒนาสู่ความร่วมมือในระดับประเทศ กับสถาบันการแพทย์แผนจีนชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้ง 5 สถาบัน มีการพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างสาขาในส่วนภูมิภาคขึ้น 2 สาชาได้แก่ สาขาโคราช ในปี พ.ศ.2557 และสาขาศรีราชาในปี พ.ศ.2562และยังสร้างมาตรธานใหม่ให้กับยาสมุนไพรจีนในประเทศไทย โดยการสร้างคลังยาศรีสมาน จังหวัดนทบุรี ในปี พ.ศ.2558ซึ่งเป็นคลังยาสมุนไพรจีนที่ใหญ่ที่สุดในอาเชียนด้วยการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐานสากล

เพื่อเก็บรักษายาสมุนไพรจีนที่นำเข้าโดยตรงจากแหล่งผลิต หรือที่เรียกว่า “เต้าตี้เย่าไฉ”เพื่อให้มีอาสมุนไพรจีนที่มีคุณภาพไว้ใช้อย่างต่อเนื่อง และในปี พ.ศ.2561คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวได้รับเกียรติจากสำนักการบริหารการแพทย์แผนจีนแห่งชาติ สาธาธารณรัฐประชาชนจีนแต่งตั้งให้เป็น “ศูนย์กลางการแทย์แผนจีนแห่งสาธาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทย” จนถึงปัจจุบัน และในปี พ.ศ.2563คลินิกฯได้รับเกียรติจากกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข มอบใบประกาศเกียรติคุณ “สถานพยาบาลการแพทย์แผนจีนต้นแบบในประเทศไทย” รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยและยังได้รับการยกย่องจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ให้คลินิกฯ เป็น”หน่วยงานด้านการแพทย์แผนจีนขั้นสูง” อีกด้วย”การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่ผลงานความสำเร็จของคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียวที่ได้พัฒนาความร่วมมืออย่างยั่งยืนร่วมกับ 5 องค์กรจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย อย่างกระจก AI ตรวจโรคอัจฉริยะ และหุ่นยนต์ AI เช็คสุขภาพเสี่ยวดังซึ่งช่วยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนจีนสมัยใหม่และมุ่งเน้นการนำเสนอผลงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการพัฒนาเทคนิคการรักษารวมถึงการจัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางด้านการแพทย์แผนจีน เพื่อพิสูจน์ถึงพัฒนาการทางการแพทย์ และความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะสร้างความก้าวหน้าให้กับวงการแพทย์แผนจีนในประเทศไทยต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนให้แข็งแรงอย่างยังยืนสืบไป” นายอรัญ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ สำหรับใครที่พลาดงานในครั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหว และข่าวสารต่างๆ เพิ่มเติมได้ทาง
Facebook : หัวเฉียวแพทย์แผนจีน กรุงเทพ Huachiew TCM Clinic

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ม.หัวเฉียว#AI