นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำ กปปส. โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงการหยั่งเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า “เรียนเพื่อนๆ เฟสบุ๊คทุกท่านครับ ผมเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2512 ซึ่งขณะนั้นผมเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ถึงทุกวันนี้ สามารถตรวจสอบได้ตามทะเบียนของพรรคฯ ผมรักพรรคประชาธิปัตย์และคนประชาธิปัตย์ทุกรุ่นให้โอกาสผมมาโดยตลอด ถือเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ผมเป็นสมาชิกพรรค ปชป.จนถึงทุกวันนี้ ในช่วงปลายปี 2556 ถึง กลางปี 2557
ผมลูกพระแม่ธรณีบีบมวยผมและอีกหลายคนออกไปต่อสู้กับรัฐบาลทรราช ต่อสู้กับกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เมื่อจบภารกิจผมและหลายคนเดินกลับเข้าบ้านเกิด สิ่งที่นำติดตัวมาคือการปฏิรูป 5 ด้าน คือ 1.ปฏิรูปการเมือง 2.ลดความเหลื่อมล้ำ 3.กวาดล้างการทุจริต 4.กระจายอำนาจ และ 5.ปฏิรูปการศึกษา เป็นต้น การจับมือกับเพื่อนพ้องน้องพี่ลงแข่งขันเลือกหัวหน้าพรรคฯ เป็นการปฏิรูปการเมืองที่มวลมหาประชาชนมอบหมายมา ดังนั้นท่านใดที่มีความคิดเปลี่ยนหัวหน้าพรรคขอให้เข้าร่วมปฏิรูปการเมืองครั้งนี้
สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมและหมอวรงค์ใช้อาคารแปซิฟิคเป็นวอร์รูม ขอกราบเรียนว่าไม่จริง เพราะผมและคณะใช้บ้านผมที่ริมคลองประปา สามเสน เป็นสถานที่ทำงานและสมาชิกในครอบครัวเห็นด้วยทุกคน เชิญทุกคนมาดูได้ ท่านสุเทพร่วมจัดตั้งพรรค รพช. การไปกล่าวหาท่านเช่นนั้นสมาชิกพรรค รพช.อาจเข้าใจผิดได้ จึงขอชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจด้วย.
หลังจากเสร็จการชุมนุมทางการเมืองในปี 2557 แกนนำ กปปส.ทั้ง 9 คน ได้ร่วมกันจัดตั้งมูลนิธิ กปปส. และมูลนิธินี้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษา โดยการตั้งวิทยาลัยอาชีวะศึกษาภาวนาโพธิคุณ เรียนฟรี กินอยู่ฟรี มุ่งเน้นให้เด็กจบการศึกษามาประกอบอาชีพ ขณะนี้มีนักเรียน 200 กว่าคน วันที่ 25 – 28 กันยายน 2561 มีการจัดงานระดมทุนให้โรงเรียน ผมรองประธานมูลนิธิ ท่านสุเทพ ประธานมูลนิธิ จึงมีการนัดคุยเพื่อช่วยกันทำงานให้มูลนิธิ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อไป
ส่วนในประเด็นการเดินทางไปยังคอนโดของนายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ ก็เป็นการเดินสายไปเพื่อทำความเข้าใจในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ไปพบท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านนิพนธ์ ท่านเทอดพงษ์ หมอปรีชา อาจารย์เจริญ และก็ท่านอภิสิทธิ์ มาแล้ว อีกทั้งจะไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ให้ครบทุกคน จึงมาแจ้งเพื่อทราบ”