อธิบดีกรมปศุสัตว์เผย ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือเกษตรกร ปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ล่าสุดเข้าช่วยเหลือในจ.หนองคายและนครพนม ซึ่งเกิดฝนตกหนักและน้ำจากแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ย้ำให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุหลังภัยพิบัติคลี่คลายให้เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมยกระดับการเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อลดความสูญเสียด้านปศุสัตว์
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ปศุสัตว์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับจังหวัดในภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุยางิ มี 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วย 5 อำเภอ 14 ตำบล 44 หมู่บ้าน เกษตรกร 998 ราย มีสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 69,703 ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 145 ไร่ เบื้องต้นสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่ช่วยเหลือเฉพาะหน้าดังนี้ มอบพืชอาหารสัตว์ 8,770 กิโลกรัม ช่วยอพยพสัตว์และสนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ ส่วนรายงานสัตว์ตาย/สูญหายทั้ง 3 จังหวัด รวม 5,898 ตัว ส่วนที่จ.เชียงรายสำนักงานปศุสัตว์จ.เชียงรายจัดตั้งสถานที่พักพิงสัตว์ชั่วคราวที่สำนักงานปศุสัตว์จ.เชียงรายและศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เชียงราย เพื่อเป็นสถานที่ที่ประชาชนขนย้ายสัตว์เลี้ยงมาพักพิง โดยมีสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลสุขภาพให้ด้วย
ล่าสุดเกิดอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ หนองคายและนครพนม เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก ประกอบกับระดับน้ำแม่น้ำโขงสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง สำนักงานปศุสัตว์จ.หนองคาย รายงานว่าเกิดผลกระทบ 4 อำเภอ 10 ตำบล 68 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 849 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 7,322 ตัว การช่วยเหลือเฉพาะหน้าได้แก่ ช่วยอพยพสัตว์ มอบพืชอาหารสัตว์ 8850 กิโลกรัม มอบชุดดูแลสุขภาพสัตว์พร้อมจัดทีมรักษาสัตว์ และมอบถุงยังชีพ ส่วนจ.นครพนม เกิดผลกระทบใน 2 อำเภอ 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 116 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 972 ตัว ช่วยเหลือเฉพาะหน้าด้วยการมอบพืชอาหารสัตว์ 6,000 กิโลกรัม ขณะที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีพื้นที่ติดริมลำน้ำโขง กรมปศุสัตว์ได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมช่วยเหลือ หากเกิดสถานการณ์อุทกภัย
น.สพ.สมชวน กล่าวว่า กรมปศุสัตว์มีแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่วางไว้ล่วงหน้าเพื่อให้สามารถป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ในระยะเฉพาะหน้า โดยคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ได้ประชุมซักซ้อมแผนแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระดับเขต และเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น สำรวจพื้นที่เสี่ยง เตรียมสถานที่พักพิงอพยพสัตว์ในพื้นที่สูงสู่ที่ปลอดภัย จัดเตรียมบุคลากรชุดปฏิบัติการช่วยเหลือ จัดทีมสัตวแพทย์ 173 ทีม นอกจากนี้ยังเตรียมเสบียงอาหารสัตว์หญ้าพระราชทานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 32 แห่ง ที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาค 5,351,300 กิโลกรัม (267,565 ก้อน) ที่สามารถเลี้ยงโค กระบือ ได้ 114,673 ตัว ต่อเนื่องได้ 7 วัน ถุงยังชีพ 3,500 ชุด ซึ่งประกอบด้วย อาหารสุนัข/แมว อาหารสัตว์ปีก แร่ธาตุก้อน ยาปฏิชีวนะ วิตามินละลายน้ำ และยาถ่ายพยาธิ เตรียมชุดเวชภัณฑ์ในพื้นที่ทั้ง 9 เขต พร้อมใช้ในการดูแลสุขภาพสัตว์ รักษาสัตว์ป่วยได้อย่างทันท่วงทีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น รวมถึงจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ช่วยเหลือและยานพาหนะ 119 คัน
“ในช่วงปลายฤดูฝนซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดจะมีฝนตกหนักบางแห่งทั่วทุกภูมิภาค จึงสั่งให้ทุกพื้นที่เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยให้ติดตามสภาพอากาศสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและให้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังกำชับให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรในทุกพื้นที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ หรือปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อได้รับการช่วยเหลือเยียวยาหากสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้รับทราบข่าวสารจากทางราชการด้วย ที่สำคัญอีกประการคือ การเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์เพื่อลดการสูญเสียด้านปศุสัตว์ พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ท้องที่ท้องถิ่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในช่วงที่เกิดภัยและหลังเกิดภัย ให้แต่ละพื้นที่ที่เกิดผลกระทบเร่งสำรวจความเสียหาย ตลอดจนช่วยฟื้นฟูสุขภาพสัตว์และฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร รวมถึงเร่งช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ประสบอุทกภัยและต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์ สามารถติดต่อศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร:02-6534444 ต่อ 3315 E-mail : disaster@did.go.th” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
