“ผู้ช่วยฯอ้อ”จัดหนัก สั่งปูพรมลุยตรวจค้นแหล่งผลิต หากพบให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมให้บูรณาการร่วมฯเยียวยา ผูัได้ผลกระทบ
เผยผลสรุปผลคดียาดอง ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวน 44 ราย เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ปลอดภัย 1 ราย หายแล้ว 31 ราย
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 67 (เวลา 14.00 น.)ที่ห้องประชุม บก.น.3 เขต มีนบุรี กรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 4)(สส 2) เปิดเผยว่า วันนี้ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.เมฒาวิศ ประดิษฐ์ผลผู้ทรงคุณวุฒิ ตร.,พ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ รอง ผบก.กต.7 จต.พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และหน.สง.ฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี กรณีพบผู้เสียชีวิตจากการบริโภคสุราเถื่อน (เหล้ายาดอง) ในพื้นที่ บก.น.3
โดยมีพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน,พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 นายบัญชา รัตนวุฒิมงคล ประธานที่ปรึกษา อนุ กต.ตร.บก.น.3 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 (กม.) พ.ต.อ.ถนัด นักธรรรม รอง ผบก.น.3 (สส) ,พ.ต.อ.อิสระ ณ พัทลุง รอง ผบก.น.3 (กม),พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี รอง ผบก.น.3 (ปป),พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.น.3 (ปส)ผกก.สส.บก.น.2 ,3,4 , ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.2,3,4 และผกก.สน.คันนายาว ,สน.มีนบุรี ,สน.นิมิตรใหม่ , สน.ลำผักชี ,สน.ฉลองกรุง , สน.บึงกุ่ม ,สน.ประเวศ ,สน.บางชัน และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บช.น.ที่ 276/2567 ลงวันที่ 26 ส.ค.2567 เข้าร่วมประชุม
โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี กรณีพบผู้เสียชีวิตจากการบริโภคสุราเถื่อน (เหล้ายาดอง) ในพื้นที่ บก.น.3 เป็นการผลิตขึ้นมาเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเหล้ายาดองดังกล่าวตรวจสอบพบส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย เหตุเกิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี เขตคลองสามวา เขตหนองจอก เขตลาดกระบัง เขตคันนายาว และเขตประเวศ ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา จำนวน 44 ราย เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ปลอดภัย 1 ราย หายแล้ว 31 ราย
ทั้งนี้ได้กำชับให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้มีการฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งกำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดในสถานบริการ ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านขายของชำ รวมถึงโกดังสินค้าจำหน่ายสุรา ประสานความร่วมมือกับสรรพสามิต สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ออกสุ่มตรวจการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสุราที่ผลิตขึ้นเอง (เหล้ายาดอง) ที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผู้จำหน่าย/ผู้บริโภค ให้ทราบถึงพิษภัย หรือโทษของการบริโภคเหล้ายาดองที่ไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย จากนั้นได้เลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวอีกว่า
โดยสรุปข้อสั่งการฯดังนี้
1.ให้สอบสวนผู้เชี่ยวชาญถึงผลกระทบที่เกิดจากการมีเอทิลแอลกอฮอล์ และเมทิลแอกอฮอล์ว่ามีอันตรายต่ออวัยวะภายในร่างกายส่วนไหน อย่างไร
2.การแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีนี้ ให้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ให้รอบคอบ รัดกุม ว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องใดบ้าง
3.ให้สอบสวนผู้เชี่ยวชาญว่าเอทิลฯกับสมุนไพรเมื่อผสมเป็นยาดองแล้ว จะทำปฏิกิริยาเป็นสารชนิดอื่น ได้หรือไม่
4.ให้ตรวจสอบพฤติการณ์ในการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ของร้านที่เกี่ยวข้องในคดี ประกอบว่า จะเป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่
5.ให้สอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าในการขายยาดองของกลุ่มผู้ต้องหา และซุ้มขายยาดองในคดีนี้ ได้โฆษณาสรรพคุณของยาดองหรือไม่ อย่างไร
ให้เร่งรัดสอบสวนคดีให้รอบคอบ รัดกุม โปร่งใสและเป็นธรรม โดยให้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการให้ได้ภายในต้นเดือน พ.ย.67