วัชระ เปิดหน้าชน จี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ขอรายชื่อผู้คุมทั้งหมดที่ดูแลช่วง “ทักษิณ” รักษาตัว เปิดชื่อแพทย์หญิงผู้รับรองให้ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ
วันนี้ (2 กันยายน 2567) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าวันนี้ได้ยื่นหนังสือถึงนายสหการณ์ เพ็ชรนริทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ใจความระบุว่า
ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเป็น นช.ทักษิณ ชินวัตร อ้างว่ามีอาการเจ็บป่วยโดยนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้อนุญาตให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมีแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นผู้เซ็นรับรอง นช.ทักษิณฯ จึงได้ไปรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งในคืนที่มีการอนุญาตให้ นช.ทักษิณฯ ไปโรงพยาบาลตำรวจ มีนายวิษณุ เครืองาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครนั้น
อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ข้าพเจ้านายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ มีความประสงค์สำเนาคำสั่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ,เวรตรวจ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ที่มีอำนาจตรวจราชการเขตเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่เข้าเวรและตรวจเวรควบคุมดูแล นช.ทักษิณ ชินวัตร และสำเนารายงานการปฏิบัติราชการและสำเนาการเบิกเบี้ยเลี้ยงของข้าราชการทั้งหมดและรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่พักรักษาอาการเจ็บป่วยตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 1 ชุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์ “รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติยกระดับสร้างความเปลี่ยนแปลง” คือ มิติที่ 8 พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนงานราชทัณฑ์ (บริหารจัดการองค์กรด้วยระบบธรรมาภิบาล 6 ประการ คือ หลักคุณธรรม หลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักความมีส่วนร่วม หลักสํานึกรับผิดชอบและหลักความคุ้มค่า) นั้น
ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีอากรจึงขอใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องขอให้ท่านจัดทำสำเนาข้อมูลข่าวสารโดยด่วนที่สุด
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย หากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบภายใน 7 วันด้วย จะขอบคุณยิ่ง นายวัชระ กล่าวในที่สุด
มีรายงานว่าซึ่งกรณีดังกล่าว มีการตั้งข้อสังเกตุสื่อกระแสหลักไม่ติดตามความคืบหน้าและทำหน้าที่สื่อเชิงสืบสวนเหมือนในอดีต คาดว่ากรณีที่นายพัชระ เปิดเผยคงจะเงียบไปเช่นหลายกรณีที่สื่อไม่กล้านำเสนอข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ