วานนี้ (วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2567) เวลาประมาณ 23.00 น.ชุดปฏิบัติการสืบสวน ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว
โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 สนธิกำลังร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม นายมินวู(สงวนนามสกุล) ชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3538/2567ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท ซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิด
ตามมาตรา 37 ของบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือมิได้จัดการตามสมควร เพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ขณะกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งพนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ และนายอำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการและได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 แล้วและได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้ นายหิรัญ ศรนุวัตร อัยการร่วมสอบสวน และร้อยตำรวจโทเสฎฐวุฒิ สายป้อง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 69/2562 กองคดีความมั่นคง โดยนายมินวู (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ ร่วมกับผู้จัดการฝ่ายการเงินสัญชาติเกาหลีใต้ของบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นลูกน้อง ได้ดำเนินการให้พนักงานบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นคนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นในบริษัทโดยไม่มีการชำระค่าหุ้นจริงเพื่อให้สัดส่วนการถือหุ้นเป็นไปตามกฎหมายกำหนด กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความสำคัญกับปัญหาคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตมาโดยตลอดเนื่องจากมีผลกระทบรุนแรงต่อผู้ประกอบการชาวไทยและยังเป็นปัญหาสำคัญด้านความมั่นคง อีกด้วย
ดังนั้น จึงขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยในการแจ้งเบาะแสด้วยดีมาโดยตลอด และหากประชาชนยังมีข้อมูลหรือทราบเบาะแสในกรณีดังกล่าว หรือการกระทำความผิดอื่น สามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแส ได้ที่เว็บไซต์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ)