หน้าแรกการเมืองสส.ชลบุรี ตั้งกระทูถาม บีโอไอ ชาวไทยได้อะไร หลังทุนจีนหิ้วมาทั้งคนทั้งของ แถมแอบทำงานอาชีพสงวน

สส.ชลบุรี ตั้งกระทูถาม บีโอไอ ชาวไทยได้อะไร หลังทุนจีนหิ้วมาทั้งคนทั้งของ แถมแอบทำงานอาชีพสงวน

วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เขต 7 อดีตพรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้สดด้วยวาจา ถามนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ถึงกรณีการทะลักเข้ามาของการลงทุน สินค้า และแรงงานจากประเทศจีน โดย พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาเป็นผู้ตอบกระทู้แทน โดยนายสหัสวัตระบุว่าตั้งแต่ปี 2567 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อนุมัติการลงทุนกว่า 1,300 โครงการ มูลค่า 4.3 แสนล้านบาท แต่มีการจ้างงานคนไทยแค่ 1.5 แสนคน เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีถึง 3.7 แสนคน ทั้งที่ยอดส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 90%

การลงทุนจากประเทศจีน มีการขนแรงงานเข้ามาด้วย คำนวณจากยอดเข้าจองหอพักทั้งใน อ.ศรีราชา และ อ.ปลวกแดง มีจำนวนแรงงานชาวจีนทะลักเข้ามาไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน ไม่นับร้านค้าจีนที่ไม่มี มอก. หรือ อย. เปิดใหม่จำนวนมากที่ขนทุกอย่างมาจากจีน รวมทั้งพนักงาน อีกทั้งยังมีแรงงานจีนจำนวนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในกลุ่มอาชีพสงวนสำหรับคนไทยด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน BOI ทั้งสิ้น

คำถามสำคัญคือเมื่อรัฐบาลส่งเสริมการลงทุนมากขนาดนี้ ทำไมไทยยังขาดดุลการค้าจีนถึง 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศไทยได้อะไรจริงๆ จากการส่งเสริมการลงทุนนี้บ้าง ถ้าขนไฟขนน้ำมาเองได้ก็คงขนมาแล้ว ทำไม BOI ไม่ทำหน้าที่กลั่นกรองให้มากกว่านี้ ให้สิทธิประโยชน์โดยดูแค่ตัวเลขการลงทุน แต่ไม่ดูบริบทแวดล้อมว่าประเทศไทยและคนไทยจะได้อะไรและเสียอะไรบ้าง และถึงเวลาหรือยังที่ BOI ต้องทบทวนสิทธิประโยชน์การลงทุนที่ใช้เงินปีละ 4-5 แสนล้านบาทนี้

ด้าน รมว.การคลัง ตอบว่า การลงทุนจากต่างประเทศมีรูปแบบที่ช่วงแรกต้องนำของเข้ามาเพื่อสร้างโรงงาน แล้วตอนหลังก็ค่อยมาดูเรื่องการใช้วัตถุดิบภายในประเทศตามข้อตกลง การลงทุนรุ่นใหม่ที่เข้ามาส่วนใหญ่เรื่องอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ การแพทย์ ยานยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า โลหะวัตถุ เคมี ปิโตรเคมี สาธารณูปโภค ดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่มีมูลค่าสูง ทุกคนที่เข้ามาต้องการแรงงานทักษะสูง ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการเน้นการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรซึ่งต้องการคนที่เข้าใจ ตรงนี้การจ้างแรงงานจึงยังไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีการเร่งและมีตัวเลขการลงทุนเกิดขึ้นจริง การลงทุนในเฟส 2-3 จะมีการจ้างงานหรือมีบริษัทไทยร่วมเป็นหุ้นส่วนตามมาอย่างแน่นอน

สหัสวัต ถามกลับว่า สิ่งที่ตนถามไปคือเรื่องของความคุ้มค่าและผลกระทบ ซึ่งจากที่รัฐมนตรีตอบมา ตนยังมีความกังวลอยู่ว่าจะมีการส่งไปถึงเทียร์ 2-3 จริงอย่างนั้นหรือไม่ หรือจะเป็นการรีบมารีบถอนกลับ เพราะการลงทุนไม่ได้มีแค่เม็ดเงินที่จะต้องคำนึงถึงเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือกระบวนการทำงานของนายทุนว่าถูกกฎหมายหรือไม่ด้วย

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #สหัสวัตคุ้มคง #พรรคก้าวไกล #ชลบุรี #บีโอไอ #ทุนจีนทะลัก

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img