“หลวงพ่อพยอม“คิกออฟ คดีมหากาพย์ ขอคืนที่ดินโฉนดถุงกล้วยแขกคืน
ยันได้โฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย ไวยาวัจกรวัดสวนแก้วเข้าแจ้งความ ฐานคู่กรณีปลอมแปลงโฉนดใหม่ทับโฉนดเก่า
วันที่ 30 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้อพิพาทเรื่องที่ดินถุงกล้วยแขก (โฉนดเลขที่ 55600) พื้นที่ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ของมูลนิธิสวนแก้ว ที่มีเนื้อที่ 1 ไร่ 1งาน 55 ตารางวา ที่ พระพิศาลธรรมพาที (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้จัดซื้อในวันที่ 9 กันยายน 2547 ในราคา 10 ล้านบาท จากการแบ่งขายมาจากโฉนดเลขที่ 8216 ของนางวันทนา สุขสำเริง (ผู้ครอบครองที่ดินปรปักษ์ ผืนดังกล่าว)
ต่อมาในปี 2563 มีบุคคลอ้าง เข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง ซึ่งในตอนนั้นนางวันทนา เป็นผู้ครอบครอง ที่ดินปรปักษ์ กลับไปให้ข้อมูลกับทางคู่กรณีว่าเป็นผู้เช่า ทำให้ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ได้ยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวและนำสังกะสีมาล้อมรั้ว ห้ามให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่
ซึ่งในตอนแรกพระพยอมได้ให้ทนายเข้ามาดูแลเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถต่อสู้อะไรได้ จึงยอมจำนนแต่ก็ตั้งคำถามกับสังคมว่าหากเป็นที่ที่มีเจ้าของแล้วทำไมกรมที่ดินถึงออกโฉนดที่ดินให้กับตน แล้วตนก็ได้ทำการซื้อที่ดินในราคา 10 ล้านบาท หรือนี่เป็นช่องโหว่ของหน่วยงานราชการ
ล่าสุด วันนี้ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้เปิดเผยว่า พอจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว จากเดิมที่ตนก็มีข้อสงสัยว่าตนผิดอะไรหรือเจ้าหน้าที่ที่ดินผิดอะไร ถึงทำโฉนดที่ดินมาให้ตนได้ แต่ตอนนี้เข้าใจและขอสู้ต่อโดยให้ไวยาวัจกรของวัด เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงประเด็นที่ดินดังกล่าว โดยแจ้งความในคดีอาญา จากคำพิพากษาชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ในการขับไล่รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของวัดและมูลนิธิสวนแก้ว ให้เป็นโมฆะและโมฆียะ โดยการฟ้องขับไล่โฉนดที่ดิน ของวัดสวนแก้วเป็นการฟ้องที่นำเอกสารเท็จมากล่าวอ้างฟ้องขับไล่ จึงให้ไวยาวัจกรของวัด นำหลักฐานดังกล่าวแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้สืบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องในเรื่องนี้บ้างและดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
โดยพระพยอม เปิดเผยอีกว่าถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเดิม ที่เดิม 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา ที่ตนซื้อมาในราคา 10 ล้านบาท เมื่อหลาย 10 ปีก่อนนั้น ตนก็มีเอกสารโฉนดที่ดินที่ชัดเจน ซึ่งออกให้โดยกรมที่ดิน แต่เมื่อเกิดปัญหา มีผู้กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง และอ้างว่าโฉนดที่ดินของพระพยอมเป็นของปลอม ได้จ้างให้ทนายความ และก็ได้รับคำปรึกษาจากทนายความและปฏิบัติตาม ตอนนั้นก็เข้าใจว่า คงจะต้องคืนที่ดินให้กับเขา จนกระทั่งมาทราบภายหลัง ว่าทนายความคนดังกล่าว เปรียบเหมือน “ปลาหมอคางดำ” เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ ให้กับฝ่ายตรงข้าม และมาทราบภายหลังว่า ทางคู่กรณีมีการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ โดยได้ทำโฉนดที่ดิน ทับกับโฉนดที่ดินที่พระพยอมซื้อมา ซึ่งโฉนดที่ดินอีกฉบับอยู่ฝั่งตรงข้าม กับที่ดิน 1 ไร่ ของพระพยอม โดยมีถนนสาธารณะกั้น จนมาทราบภายหลังว่าโฉนดที่ดินของคู่กรณี เพิ่งมาเขียนทับ โดยที่ทนายความ ของทางวัดสวนแก้ว ก็ไม่ได้มาชี้แจงเรื่องนี้ ที่แท้โฉนดที่ดินที่พระพยอมได้รับมานั้นเป็นโฉนดที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงขอฝากถึงทนายปลาหมอคางดำ อยากให้สารภาพผิด รับผิดกับสิ่งที่ทำ
มีรายงานว่าปัจุบันที่ดินแปลงดังกล่าว ปรากฏว่าก็ยังพบว่ามีสังกะสีกั้นโดยรอบพื้นที่ แต่ในพื้นที่ยังมีบ้านเรือนของประชาชนอยู่ 1 หลังคาเรือน เป็น เป็นชาวบ้านผู้ยากไร้ที่คอยดูแลพื้นที่ให้กับเจ้าของ หน้าพื้นที่ยังมีการติดป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามบุกรุก นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายใบแจ้งความ บุคคลที่เข้าไปในพื้นที่ พระพยอมและบริวารอีกด้วย แต่ใบแจ้งความดังกล่าวระบุไว้ตั้งแต่ปี 2563
#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#พระพยอม