นายนคร มาฉิม อดีตส.ส. จังหวัด พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงกรณีที่ เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 206 คะแนน เห็นชอบงบประมาณปี 62 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท โดยระบุว่า “เมื่อวานนี้ คณะรัฐประหารที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดาและคณะ คสช หลังจากสามารถใช้อาวุธในนามของกองทัพไทย ปล้นอำนาจจากคนไทยทุกคนได้สำเร็จตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วร่วมกันแต่งตั้งลิ่วล้อ ผู้มีส่วนร่วมในการยึดอำนาจของประชาชนให้มีตำแหน่งใหญ่โต เป็นแม่นำ้ 5 สาย สายแรกคือ คสช. ซึ่งเปรียบเสมือน คณะโปลิตปูโรของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ในจีน และรัสเซีย ที่คุมนโยบายสูงสุดสายที่ 2 คือ ครม. หรือที่พยายามเรียกตนเองว่าคณะรัฐมนตรี มีตำแหน่งที่พยายามบอกกับสังคมว่าคนนี้เป็นนายกรัฐมนตรี คนนี้เป็นรัฐมนตรี แต่สากลเขาไม่ยอมรับ สากลเขาเขาเรียกว่าคณะรัฐประหาร ไม่ยอมรับความชอบธรรมเพราะมาโดยการปล้นอำนาจประชาชน ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สายที่ 3 คือ กรธ. คือพวกบรรดาเนติบริกร ที่คอยประจบสอพลอคอยอำนวยความสะดวกในการวางกฎกติกาเพื่อแปลงปืนมาเป็นกฎหมาย เพื่อให้ดูอ่อนมากกว่าปืน มาบังคับใช้กดหัวคนไทยไว้ในยามของกฎหมาย โดยมีข้าราชการและกระบวนการยุติธรรมคอยบังคับใช้ให้ตามวัตถุประสงค์ของคณะรัฐประหาร สายที่ 4 คือ สปช/สปท หรือสภาปฏิรูปประเทศ ที่พยายามรวบรวมเอาหลักการ เหตุผล แนวคิด วิธีการของเหล่าเผด็จการมาประมวลรวมวางเป็นยุทธ์ศาสตร์ชาติ 20 ปีเพื่อใช้เป็นแผนแม่บทของเผด็จการ โดยเผด็จการ และเพื่อเผด็จการกดหัวคนไทย กดขี่ข่มเหงคนไทยไปอีกอย่างน้อย 20 ปีตามความประสงค์ของเหล่าเผด็จการ และ สายที่ 5 คือ สนช. หรือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีหน้าที่คอยประทับตราความชอบธรรมว่ากฎหมาย ทุกอย่างที่คณะรัฐประหารต้องการผ่านรัฐสภาแล้ว และเป็นกฎหมายแล้วนะ คนไทยทุกคนจะต้องปฎิบัติ ถ้าใครขัดขืนจะต้องถูกลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่างฝ่ายต่างแบ่งหน้าที่กันทำ แบ่งตำแหน่ง แบ่งสรนปันส่วน เงินเดือนเป็นแสน เป็นล้าน อิ่มหมีพีมันไปตามไปกันบนหยาดเหงื่อ คาบนำ้ตา ความทุกข์ยากแร้นแค้นของประชาชนที่ถูกกดขี่ ไม่มีสิทธิ เสรีภาพใดๆ บางทีก็ถูกขู่ตะคอกยังกับเป็นข้าทาสบริวารของหัวหน้าคณะรัฐประหารเอาอีก
เมื่อวานนี้ แม่น้ำสายที่ 5 คือ สนช ก็ได้เข้าร่วมทำพิธีกรรม ว่ามีการประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 ที่ขูดรีดภาษีมาจากประชาชนผู้ถูกปกครองได้เงินมา 3 ล้านล้านบาท เพื่อให้คณะรัฐประหารนำไปใช้ โดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นเงินเดือนของพวกเผด็จการและลิ่วล้อในแม่น้ำ5 สาย รวมถึงข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจองค์กรอิสระ ประมาณ 2.5 ล้านคน เพื่อให้คนเหล่านี้เป็นเครื่องมือทำงานให้และค้ำบัลลังก์ให้พวกเขาอยู่ต่อไป อีก ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ใช้เป็นงบพัฒนาและมีช่องทางเรียกรับเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นกันอีกต่อหนึ่งมากน้อยแล้วแต่จะบริโภคกันตามอัธยาศัย เพราะไม่มีฝ่ายค้านอยู่แล้ว
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า พวก สนช. ทั้งหลายจะมีหน้าไหนกล้าลุกขึ้นมาทักท้วง คัดค้านการใช้จ่ายเงินภาษีอากรของราษฎร แทนราราษฎรแม้แต่คนเดียว เพราะราษฎรไม่ได้เลือกพวกเขาไปทำหน้าที่ พวกเผด็จการคณะรัฐประหารต่างหากที่คัดเลือกพวกเขาไปมีตำแหน่งมีเงินเดือน เขาจึงต่องรับใช้เผด็จการ เท่านั้น
งบประมาณ 3 ล้านล้าน จึงผ่านฉลุย ไม่มีเสียงค้าน แม้แต่เสียงเดียว พวกเผด็จการและเครือข่ายลิ่วล้อเผด็จการก็เสวยสุข อิ่มหมีพีมันกันต่อไป พวกเราทุกข์ยากลำบากเป็นทาสไพร่กันต่อไป จนกว่าคนไทยทุกคนจะร่วมกันทวงคืนอำนาจมาเป็นของตนเองได้โดยไม่ต้องรอพวกเผด็จการประทานให้ครับและผมเองยังมั่นใจว่าตอนนี้หมดเวลาของเผด็จการแล้ว จะได้เห็นการพังทลายของเผด็จการและเครือข่ายในอีกไม่นานนี้
ผมเองอยากฝากย้ำไปถึงบรรดาเหล่าข้าราชการซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนดี หลายท่านไมได้รับความเป็นธรรมจากระบอบเผด็จการ ได้โปรดใช้วิจารณญาณของท่านว่าจะรับใช้ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย หรือจะรับใช้เผด็จการ ที่ไม่มีอนาคตและกำลังจะพังทลายลงในเวลาอันสั้นนี้”
ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณปี 2562ฉลุย 3.3ล้าน ฉลุยในรัฐบาลคณะรัฐประหาร เมื่อวานนี้ คณะรัฐประหารที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา…
โพสต์โดย Nakorn Machim เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2018