”จับกระแสพี่แจ๊ส” ฝ่าด่านเพื่อไทย นั่งนายก อบจ.ปทุมฯอีกสมัย ชี้ผลงานเพียบ-ชาวปทุมฯสัมผัสได้ใจถึงใจ..ของแท๊..!!!!

1142

                สัปดาห์นี้จัดว่าเป็นสัปดาห์แห่งการเลือกตั้งไม่ผิดนัก เพราะมีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.)วันที่ 26 มิถุนายน และการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี ในวันที่ 30 มิถุนายน  สนามใหญ่เลือก สว.คงไม่ต้องลุ้นมากเพราะใช้สูตรพิสดารด้วยบริบท 2 ด คือดิวกับดวง  

 แต่สนามเมืองปทุมธานี คอการเมืองทั่วประเทศต่างจับตาเป็นพิเศษ เพราะบ้านใหญ่ชินวัตร ลงแรงแบบเทหมดหน้าตักถึงขั้นนายทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่ด้วยตัวเองชู นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ.ปทุมธานี สายตรงเจ๊ใหญ่ บ้านแจ้งวัฒนะ ลงในนามพรรคเพื่อไทย เป้าหมายหวังโค่น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ พี่แจ๊ส แชมป์เก่า เจ้าของวลีเด็ด มีวันนี้เพราะพี่(ทักษิณ)ให้ ที่ความสัมพันธ์ทางการเมืองกลายเป็นเส้นขนานไปแล้ว

 หากจับกระแสเปิดตัวในช่วงแรกที่นายทักษิณ หอบหิ้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เป็นประธานอุปสมบทลูกชายคนเล็กของนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ดูเหมือนนายชาญ จะมาแรงกว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ พอเวลาทอดยาวออกไปกระแสของนายชาญ เริ่มแผ่ว สาเหตุน่าจะมาจาก อาทิ หัวคะแนนที่เป็นผู้นำท้องถิ่นบางคน ชาวปทุมธานีต่างทราบว่าเป็นบุคคลที่ไร้ความน่าเชื่อถือ บริหารงานในพื้นที่ส่อไปในทางมิชอบ ประเภทยาหมดอายุ ซึ่งไม่แน่ใจว่าแกนนำเพื่อไทยบางคนให้ความเชื่อถือได้อย่างไร

ขณะที่นายทักษิณ ลงพื้นที่ปล่อยมุกปลุกกระแสแดงคืนถิ่น หวังให้คนเสื้อแดงปทุมธานี เทเลือกนายชาญ กลายเป็นมุกเเป๊ก ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยและคนตระกูลชินวัตร เกิดอาการหวั่นไหวอย่างหนัก เพราะถ้าพลาดท่าพ่ายให้กับพล.ต.ท.คำรณวิทย์   คงเสียเครดิตอย่างหนัก จึงต้องส่งนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณลงหาเสียงวันที่  23 มิถุนายน ตามด้วย น.ส.แพทองธาร จะลงไปช่วยนายชาญ อีกรอบในวันที่ 28 มิถุนายน จะฉุดกระแสได้หรือไม่ คงติดตาม

ขณะที่กระแสตอบรับของชาวปทุมธานี ต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ดีวันดีคืน  สาเหตุหลักน่าจะมาจากผลงานที่ชาวบ้านสัมผัสได้จริง ไม่ว่าจะเป็นช่วงสถานการณ์โควิดระบาด พล.ต.ท.คำรณวิทย์สามารถยืนเป็นหลักให้ชาวปทุมธานีได้เป็นอย่างดี นำร่องตั้งโรงพยาบาลสนาม การบริหารงานในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นงานด้านจราจร แก้ปัญหาน้ำท่วมขังหรือระบบระบายน้ำในพื้นที่  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่ทำให้ชาวบ้านต้องผิดหวัง แม้งานหลายด้านจะไม่ได้บรรลุเป้าหมาย แต่ชาวบ้านต่างเห็นความตั้งใจในการทำงาน ที่ประชาชนใช้ความรู้สึกสัมผัสได้ ยิ่งได้ฟังเหตุผลที่ต้องไขก๊อกก่อนครบวาระ ทำให้มองเห็นถึงวิสัยทัศน์ของนักปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์ว่าปลายเดือนธันวาคม โอกาสจะมีน้ำหลาก ในกลุ่มจังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ตั้งแต่ นครสวรรค์  สิงห์บุรี อ่างทอง ถึงปทุมธานี หากอยู่ครบวาระวันที่ 19 ธันวาคม ไม่ส่ามารถดำเนินการอะไรเลย  จากเหตุดังกล่าวส่งผลให้นายก อบจ.นครสวรรค์ และอ่างทอง ไขก๊อกด้วย

อีกเหตุผลคือห่วงความปลอดภัยของประชาชนที่ต้องเผชิญกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูฝน โดยถอดบทเรียนจากบริหารจัดการสถานการณ์ช่วงโควิดมาเป็นโมโดล จึงประสานสาธารณสุขจังหวัดระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ ช่วงที่ว่างเว้นงานราชการ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดคลินิกในนามมูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง ให้การรักษาประชาชนตามแนวทางแพทย์แผนไทย  ไม่คิดค่าบริการแต่เก็บค่าบูชาครู 19 บาท เปิดรักษามาตั้งแต่ปี 2557 มีล้มลุกคลุกคลานบ้างเพราะถูกร้องให้ตรวจสอบ แต่สุดท้ายกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ยืนยันการรักษาเป็นไปตามมาตรฐาน ผู้ป่วยที่เข้ารักษากลายเป็นหัวคะแนนอย่างดี

ขณะที่การประสานการทำงานกับ สส.ในพื้นที่ของพรรคก้าวไกล ค่อยข้างลงตัว เพราะหลังการเลือกตั้ง สส.ก้าวไกล ยกทีมไปหารือแนวทางการทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งคนในพื้นที่ต่างรับทราบกันเป็นอย่างดี แฟนคลับพรรคส้ม ส่วนใหญ่จะให้การยอมรับในบทบาทของพล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าประเมินถึงปัจจัยดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ประชาชนชาวปทุมธานี จะเทใจเทคะแนนให้กับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผงาดนั่งตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี อีกสมัย ซึ่งจะกลายเป็นบทเรียนบทใหญ่ให้กับนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยว่าจะยึดคืนพื้นที่ต่างๆนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด แนวทางยึดบ้านใหญ่เดินเกมนั้นลำบากแล้ว เพราะบ้านใหญ่ต่างกลายเป็นยาหมดอายุไปแล้ว ยิ่งยุคการสื่อสารที่ไร้พรหมแดนมีโทรศัพท์มือถือแค่เครื่องเดียวสามารถเป็นสื่อและเสพสื่อทุกประเภทได้ทั่วโลกแล้ว บทบาทของนักการเมืองที่ตลบตะแลงและกลุ่มอำนาจต่างๆที่ทำตัวเป็นอภิสิทธิชน ชาวบ้านต่างรู้กันทั่วแล้ว

ดังนั้นหากสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รักษาแชมป์ไว้ได้ นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย คงต้องไปถอดบทเรียนเพื่อวางแผนชิงอำนาจทางการเมือง เพราะแนวทางที่กำลังเดินไร้ผล!!!