สุกดิบโค้งสุดท้ายลุ้น สว.26 มิ.ย.นี้ ชี้สายพรรคการเมืองส่อยึดสภาสูง คาดเงินสะพัด-จ้างโหวตเริ่มที่ 2 แสน

391

ได้นำเสนอบรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ระดับอำเภอและระดับจังหวัด ตามสูตรพิสดารหนึ่งเดียวในโลกไปแล้วพร้อมกับบทสรุปว่าผู้สมัครที่ผ่านเข้าไปตัวแทนแต่ระดับล้วนมาด้วยบริบท 2ด. คือดิวกับดวง

ในวันที่ 26 มิถุนายน จะเลือกตั้ง สว.รอบสุดท้ายไปนั่งในสภาสูงจากตัวแทน 20 กลุ่มอาชีพกลุ่มละ 10 คน รวม 200 คน จากผู้สมัครที่ผ่านเป็นตัวแทนจังหวัดแล้ว 3,000 คน การเลือกระดับประเทศเหมือนกับระดับอำเภอและจังหวัด เพียงแต่เพิ่มจำนวนขึ้น เริ่มที่ผู้ได้รับเลือกในแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน 10 คน  ลงคะแนนเลือกตัวเองได้และลงคะแนนเลือกบุคคลใดได้เพียงคนละ 1 คะแนนเท่านั้น จากนั้นคัดผู้ที่ได้คะแนนลำดับที่ 1-40 ผ่านเข้ารอบ หากคะแนนเท่ากันใช้วิธีจับสลากตัดสิน กรณีที่มีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 40 คน แต่มีจำนวน 20 คนขึ้นไป ให้ผู้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้นเท่าที่มีอยู่เข้ารอบ แต่ถ้ามีผู้ได้คะแนนไม่ถึง 20 คน ให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับประเทศจัดให้มีผู้ซึ่งไม่ได้รับเลือกยังอยู่ ณ สถานที่เลือก ลงคะแนนเลือกกันเองใหม่เพื่อให้ได้ครบ 20 คน

      จากนั้นผู้อำนวยการการเลือกตั้งให้แต่ละกลุ่มจับสลากแบ่งสาย จำนวน 4 สายๆละ 5 กลุ่ม ให้ผู้สมัครเลือกกลุ่มอื่นในสายเดียวกันไม่เกิน 10 คน ห้ามเลือกตัวเองและผู้สมัครในกลุ่มเดียวกันเมื่อปิดหีบทำการนับคะแนนจะคัดผู้ที่คะแนนสูงสุด 1-10  ในกลุ่มเป็นผู้ชนะเลือกตั้งและขึ้นบัญชีลำดับที่ 11-15 เป็นตัวสำรอง ระบบการเลือกนี้ถ้าจะให้เข้าใจต้องตั้งใจอ่านให้ละเอียดพร้อมตีความตามตัวอักษรไปด้วยถึงจะกระจ่าง  ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สนใจที่ติดตามความเคลื่อนไหวในการเลือก สว.เท่าที่ควร ส่งผลให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ ซึ่งแตกต่างกับความเคลื่อนไหวของผู้สมัครทั้ง 3,000 คน ต่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯมีทั้งแบบยกทีม มาแบบกลุ่มเล็กๆประมาณ 10 คน รวมถึงมาแบบเดี่ยวๆ

        นับแต่ช่วงวันที่ 17 มิถุนายน เป็นต้นมาบรรยากาศในพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้สมัครต่างเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก  แต่ละจังหวัดที่จัดตั้งกันมาจะมีบุคคลที่เป้าหมายให้เลือกอยู่แล้ว ส่วนผู้สมัครรายอื่นจะเป็นเพียงโหวตเตอร์เท่านั้น หลายจังหวัดบุคคลเป้าหมายจะนำพลพรรคมาอย่างน้อย 20-25 คน ที่จะมาเป็นโหวตเตอร์ ขณะผู้สมัครบางจังหวัดที่มาแบบเดี่ยวๆจะจับกลุ่มภายในจังหวัดอย่างน้อย 10-15 คน สัญญาใจไปไหนไปด้วยกัน จะมีแกนนำกลุ่ม 1-2 คน เป็นคนเจรจา มีการต่อสายหาบุคคลที่เป็นเป้าหมายที่จะเลือก เพื่อเปิดการเจรจา บางกลุ่มตั้งเงื่อนไขขอดันแกนนำกลุ่มตัวเองเป็น สว. 1 คน พร้อมตำแหน่งประจำตัว สว. หากเงื่อนไขแรกไม่ผ่านจะไปต่อเงื่อนไขที่ 2 ขอเป็นโหวตเตอร์แต่ขอตำแหน่งทางการเมือง 3-5 ตำแหน่ง พร้อมปัจจัย 2-3 ขีด(200,000-300,000 บาท)ถ้ากลุ่มไหนมีสมาชิกเยอะอำนาจต่อรองสูงและปัจจัยจะสูงตามไปด้วยระดับ 3-5 ขีด พร้อมค่าที่พักและค่าเดินทาง

       บรรยากาศเหล่านี้บรรดาผู้สมัครต่างทราบกันดี และกำลังดำเนินไปแบบเข้มข้น บางกลุ่มดิวล่ม จะไปดิวกับกลุ่มอื่นต่อ บรรยากาศจะเข้มข้นยิ่งขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ทุกดิวจะต้องจบและผู้สมัครที่เป็นเป้าหมายสามารถจะทราบแล้วว่าตัวเองมีกี่คะแนน ต้องเตรียมปัจจัยจ่ายจำนวนเท่าใด ที่ต้องจบก่อนวันที่ 24 มิถุนายน เพราะในวันที่ 24 มิถุนายน ทุกสายทุกกลุ่มจะนัดหมายบรรดาผู้สมัครที่ดิวกันไว้เข้าแค้มป์ ทำความเข้าใจในการลงคะแนนรวมถึงยืนยันตัวตนว่าจะลงคะแนนให้กันตามที่ดิวกันไว้ ซึ่งมีข่าวสะพัดว่าผู้สมัครที่เป็นเป้าหมายได้เตรียมปัจจัยเพื่อแจกจ่ายสูงถึง 20-30 กิโลกรัม ข้อเท็จจริงเป็นประการใดคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)คงจัดทีมสืบสวนไว้แล้ว

       ผู้สมัครรายหนึ่งบอกว่าเท่าที่ทราบข่าวมีผู้สมัครสายสีน้ำเงิน สามารถนำผู้สมัครเข้ามาได้กว่า 1,000 คน สายสีแดงกว่า 500 คน สายสีส้มเฉียด 1,000 คนและสายสีเขียวประมาณ 300 คน ในวันสุกดิบปัจจัยอาจจะปลิวว่อน บางสายที่มากอุดมการณ์อาจจะถูกสายอื่นเจาะแตกก็เป็นได้ เพราะปัจจัยแบบ 7 หลักไม่ค่อยจะเข้าใครออกใครอยู่แล้ว  

  ดังนั้นหากประเมินคร่าวๆถึง สว.ที่จะพาเหรดเข้าสภาสูง  ถ้าดูตามสัญลักษณ์เป็นสีพออนุมานได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดที่กำลังจะเลือกในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ คงจะเป็นของพรรคการเมืองต่างๆที่ร่วมรัฐบาลกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ อาจจะเป็นสายส้มและสายเขียว จะเป็นจริงตามที่ประเมินหรือไม่คงต้องติดตาม เพราะเท่าที่เกาะติดเงินยังเป็นปัจจัยสำคัญในการนำทางสู่สภาสูง แม้บางคนมีอุดมการณ์แข็งแกร่งปฏิเสธการเมืองแบบเก่า แต่ถ้าร่วงใส่เท้าสัก 1-2 กิโลกรัม อาจจะทำให้อุดมการณ์เปลี่ยนก็เป็นได้เพราะมีปรากฏการณ์ให้เห็นมานักต่อนักแล้ว !!!