ที่โรงแรมเอสดีอเวนิว เขตบางพลัด กทม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่วาระงานของ จ.ภูเก็ต พบ นายยุทธพงษ์ เผ่าจินดา บุตรชาย ขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือการบริหารจัดการปัญหาขยะ ทั้งนี้สื่อหลายสำนัก ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่สุจริต ว่า ได้ถามลูกชายแล้วว่าไม่เคยไปทำ และไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งผู้ว่าฯ ภูเก็ตบอกว่ามีคนมาขอพบ และตนถามผู้ว่าฯ ภูเก็ตว่ามีลูกชายตนหรือไม่ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ระบุว่าได้ลบวาระงานลูกชายตนไปแล้ว ตนไม่รู้
“ผมยืนยันว่าตระกูลตนไม่ยุ่งเรื่องผลประโยชน์พวกนี้ บริสุทธิ์แน่นอน ลูกชายผมบอกว่าไม่ได้ไปพบ ไม่ได้เข้าพบ ไม่รู้จัก และไม่ได้ทำกิจการ อย่างไรก็ตามว่ากันไปตามกฏหมาย คุณถามผม ผมก็ไปถามลูกชาย” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้อาจเป็นการใส่ร้ายเพื่อโจมตีท่านหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ตอบคำถามแบบนี้ คุณไปถามลูกผมแล้วกัน แต่ก็ว่าไปตามกฎหมายแล้วกัน ผมถามลูกชาย ลูกชายบอกว่าไม่เคยไปพบ ผู้ว่าฯ บอกมีคนมาขอพบจริงบอกว่าชื่อนี้ ถามลูกว่าอย่างไร แต่ไม่ตรงกัน ตนรู้แค่นี้ ก็ดำเนินการตามกฎหมายไป ส่วนลูกชายจะดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่ ให้ไปถามเขาว่าจะฟ้องหรือไม่
“ถ้ามากระเทือนผม ผมฟ้อง เพราะผมมั่นใจว่า ผมไม่ทุจริต ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ไม่คิดและไม่เคยทำ แล้วที่กล่าวหาทุกเรื่องไม่ใช่เรื่องของผม” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะเน้นย้ำลูกชายในเรื่องการทำธุรกิจหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงไม่เน้นอะไร เพราะเขาโตแล้วและเป็นคนดี เขาไม่ทำอะไรที่ไม่ดี แต่เขายืนยันว่าไม่ได้ทำแน่นอน และตนไม่ยอมไม่ว่าใครทั้งสิ้น อย่ามายุ่งเกี่ยวงานกระทรวงแล้วมาใช้ชื่อตน ใช้อิทธิพลไม่ได้เด็ดขาด ตนไม่ยอมทั้งสิ้น ยังต้องอบรมอีกหรือ ลูก 41 แล้ว เขาโตเรียนปริญญาเอกแล้ว
เมื่อถามว่า อาจเป็นเพราะใกล้เลือกตั้งจึงโดนเพ่งเล็ง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “ผมไม่กลัว ยืนยันในความบริสุทธิ์แน่นอน 4 ปีที่ผ่านมาผมรับรองไม่มีใครว่าผมได้แม้แต่คำเดียว มีแต่คนที่เจตนาไม่ดีเท่านั้น ดีนะถ้าคนผิดคนโกงโดนดำเนินการ แต่ผมไม่เคยทำ ลูกชายผมถึงเขาจะทำธุรกิจ ผมก็ไม่เห็นด้วยถ้าจะทำ แล้วเขาก็ยืนยันจะไม่ทำ”