ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวการส่งมอบพระพุทธรูปแก่กรมศิลปากร สมัยรัชกาลที่ 3 และ รัชกาลที่ 5 อายุกว่า 100 ปี หลังจากตรวจพบเป็นของกลางเมื่อ 39 ปีที่สน.ชนะสงคราม
สืบเนื่องมาจาก ด้วยวันที่ 21 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 ได้เดินทางไปตรวจสถานที่ ที่ สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินการรื้อและไปสร้างใหม่ที่บริเวณกองสลากเก่า ได้พบพระพุทธรูปโบราณจำนวน 3 องค์ เก็บไว้ในห้องเก็บของกลางบนชั้น 2 ของ สน.ฯ จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่า เมื่อ 39 ปีที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายนำพระพุทธรูปดังกล่าวลงเรือมาจะขึ้นที่ท่าน้ำท่าพระจันทร์ เพื่อลักลอบขายในตลาดมืด ซึ่งขณะนั้นยังมีตลาดนัดสนามหลวงอยู่ แต่คนร้ายเห็นตำรวจจึงทิ้งถุงใส่พระวิ่งหนี ตำรวจจึงยึดมาเก็บไว้ พร้อมกับประกาศหาเจ้าของ แต่สมัยนั้นการสื่อสารยังไม่ทั่วถึง จึงไม่มีใครมาติดต่อขอรับคืน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ในห้องเก็บของกลางจนถึงปัจจุบัน
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร มาช่วยตรวจสอบ โดยนายอนันต์กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ โดยองค์ใหญ่เป็นพระบูชาปางมารวิชัย หน้าตัก 40 ซม. สูง 76 ซม. สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนพระพุทธรูปอีก 2 องค์เป็นพระบูชาปางห้ามสมุทร สร้างในช่วงรัชกาลที่ 3 เป็นพระเก่าล้ำค่ามากหากอยู่ในวัด พล.ต.ต.สมพงษ์ฯ จึงได้ประกาศให้เวลา 30 วัน สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของให้นำหลักฐานมาขอรับคืนได้ หากพ้นกำหนดจะส่งมอบให้กรมศิลปากร
โดยในวันนี้ได้ล่วงพ้นกำหนดเวลาแล้ว และไม่มีผู้ใดมาแสดงหลักฐานขอรับคืน ทาง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. จึงได้มาเป็นประธานทำบันทึกส่งมอบโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ แก่กรมศิลปากร โดยมี นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้รับมอบ นำไปเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป