จากที่นำเสนอมาจำนวน 4 ตอน ปรากฏว่าแหล่งข่าวในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ส่งข้อมูลถึงการบริหารสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้มาจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของ บิ๊กข้าราชการ ข้าราชการหน่วยงานต่างๆ รวมถึงทหารและตำรวจ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ส่อไปในทางแสวงผลประโยชน์และพวกที่เหาะมาเสียบยอด ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นพร้อมผลประโยชน์ตุงกระเป๋าแล้วจากไป
ปล่อยให้ข้าราชการที่เป็นคนในพื้นที่ ลูกหม้อใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก้มหน้าก้มตาแก้ปัญหาด้วยอาการกล้ำกลืน เพราะความก้าวหน้ากว่าจะขยับได้แสนยากเย็น ผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นไปตามระเบียบราชการ น้อยมากที่จะนอกลู่นอกทาง เพราะมีความละอายต่อคนในพื้นที่และญาติพี่น้อง
เป็นข้อมูลบอกเล่าที่คนในพื้นที่ต่างเห็นและประสบกับตัวเองมา ไม่ใช่ข้อมูลทางวิชาการที่บางหน่วยงานนั่งเทียน จินตนาการ เขียนโครงการขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ แบบตาบอดคลำช้าง
อย่างโครงการซื้อเรือเหาะด้วยวิธีพิเศษงบประมาณ 350 ล้านบาท ยุคที่ พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก อ้างว่าใช้บินสังเกตการณ์เพราะเสียงเบา แต่แทบจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยแถมเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ส่งท้ายก่อนหมดสภาพ เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินช่วงปี 2555 เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4นาย ทั้งที่เรือเหาะลักษณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าราคาแค่ล้านกว่าบาท หรือการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าไม้ล้างป่าช้า แพงเกินจริง ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ผลิตถูกศาลอังกฤษและเวลส์ จำคุกฐานฉ้อโกงผลิตเครื่องมือลวงโลก
แต่หน่วยงานในเมืองไทยไม่ว่าจะ เป็น ทหาร ตำรวจ กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งซื้อไป 1,398 เครื่อง มูลค่ากว่า 1,134 ล้านบาท แต่ผู้ทำหน้าที่จัดซื้อ ผู้อนุมัติ ไม่มีใครต้องรับผิดเลย ทั้งเรือเหาะและเครื่องจีที 200 กลายเป็นหนามตำใจชาวบ้านในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสมือนเป็นใบเสร็จยืนยันว่าเป็นการใช้งบประมาณแบบไร้ความผิดชอบแสวงประโยชน์เข้ากระเป๋า
ขณะที่การใช้งบประมาณเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้ดูดีมีความเจริญ ชาวบ้านได้รับประโยชน์ในรูปแบบที่รัฐยื่นให้แบบไม่มีทางเลือก อาทิ พวกพันธุ์ไม้ พันธุ์สัตว์ ล้วนแต่ถูกกำหนดจากระดับบนมาแล้ว ราคาคงไม่ต้องพูดถึงเพราะถูกกำหนดด้วยพวกผีปอบมาทั้งสิ้น
ส่วนงานก่อสร้างถนน ประปา ไฟฟ้า จะมีบริษัทผูกขาดไม่กี่บริษัทแถมราคาสูงแบบเกินจริง บริษัทเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์แบบพิเศษ กับ บิ๊กรัฐบาล บิ๊กข้าราชการ และบิ๊กศอ.บต. หากบรรดาบิ๊กพวกนี้ลงพื้นที่บริษัทเอกชนเหล่านี้จะดูแลเป็นพิเศษ เดินทางกลับแบบกระเป๋าตุง
ผลประโยชน์ที่แจกจ่ายกันล้วนเป็นเงินภาษีของประชาชนทั่วประเทศตลอดเวลา 20 ปี นับแต่ปี 2547 ทุ่มงบประมาณไป 13,450 ล้านบาท ปี 2548 จำนวน 13,674 ล้านบาท ปี 2549 จำนวน 14,207 ล้านบาท ปี 2550 จำนวน 17,526 ล้านบาท 2551 จำนวน 22,988 ล้านบาท 2552 จำนวน 27,547 ล้านบาท
ปี 2553 จำนวน 16,507 ล้านบาท ปี 2554 จำนวน 19,102 ล้านบาท ปี 2555 จำนวน 16,487 ล้านบาท ปี 2556 จำนวน 21,124 ล้านบาท ปี 2557 จำนวน 24,152 ล้านบาท ปี 2558 จำนวน 25,686 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 30,512 ล้านบาท
ปี 25560 จำนวน 12,510 ล้านบาท ปี 2561 จำนวน 13,295 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 12,025 ล้านบาท ปี 2563 จำนวน 10,865 ล้านบาท ปี 2564 จำนวน 9,731 ล้านบาท ปี 2565 จำนวน 7,144 ล้านบาท ปี 2566 จำนวน 6,251 ล้านบาท และปี 2567 จำนวน 6,658 ล้านบาท รวมประมาณ 341,441 ล้านบาท
หากส่องดูรายละเอียดของโครงการส่วนใหญ่จะดำเนินการแบบซ้ำๆทั้งที่ในความเป็นจริง ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างจริงจังต้องสำเร็จไปตั้งแต่ช่วง 10 ปีแรกแล้ว อาทิ โครงการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรอง เป็นต้น แต่โครงการเหล่านี้ยังดำเนินการอยู่
ถ้ามองอย่างวิเคราะห์ในยุครัฐบาลเผด็จทหารครองอำนาจไร้ตัวแทนประชาชนตรวจสอบ จะพบว่างบประมาณเพิ่มแบบผิดหูผิดหา ช่วง2550-2552 ยุคพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จาก 14,207 ปี 2549 กระโดดไปสูงถึง 27,547 ล้านในปี 2552 พอยุครัฐบาลพลเรือนลดลง กระทั่งช่วง 2557-2559 ยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา งบประมาณกระโดดเช่นกันจาก 24,152 ล้านบาท 2557 เพิ่มสูงสุดปี 2559 ถึง 30,512 ล้านบาท
ทั้งที่ในความเป็นจริงยุคเผด็จทหารครองเมืองการแก้ปัญหาไฟใต้ควรสงบราบคาบตั้งแต่ยุคพล.อ.สุรยุทธ์แล้ว เพราะเงื่อนไขยึดอำนาจมีปมดับไปใต้รวมอยู่ด้วย แต่ล้มเหลว มายุคพล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจเงือนไขเดิม แต่ไร้น้ำยาแถมถลุงงบประมาณแบบบานตะไท
ดังนั้นที่ชาวบ้านพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ฝังใจว่าพวกเขาถูก รัฐบาล บิ๊กทหาร บิ๊กศอ.บต.และบิ๊กข้าราชการที่เกี่ยวข้อง จับไว้เป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ด้วยการใช้งบประมาณของประเทศ เป็นความฝังใจที่ไม่เกินเลยแต่อย่างใด เพราะเหตุความไม่สงบจำนวน 44 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่จับคนร้ายได้เพียงคนเดียว น่าจะเป็นใบเสร็จยืนยันได้อย่างดี !!!