นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยื่นเรื่องถึงกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ เพื่อขอให้ส่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ตนรู้สึกแปลกใจต่อการที่เรื่องแบบนี้ปรากฏเป็นข่าวออกมา เพราะในฝั่งอังกฤษเห็นว่าเขาจะไม่ให้ข่าวในเรื่องพวกนี้ เนื่องจากจะเป็นการประสานงานกันเพื่อทำงานกันภายใน
ส่วนข่าวที่ว่าใช้สนธิสัญญาระหว่างสหราชอาณาจักรกับสยาม ปี 1911 นั้น ตนเห็นการให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดทำนองว่าเป็นการประสานงานกันระหว่างรัฐบาลของ 2 ประเทศ โดยเริ่มต้นเรื่องจากตำรวจกับอัยการ แต่เหมือนกับต้องการประสานงานคำยืนยันบางอย่างจากในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ น่าจะหมายความว่าต้องอ้างอิงถึงสนธิสัญญานี้และขอบเขตของความร่วมมือในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ทั้งหมดนี้ควรเป็นการประสานงานภายในอยู่แล้ว ส่วนฝ่ายอังกฤษจะพิจารณาอย่างไรก็เป็นกระบวนการของเขา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในอดีตเคยมีกรณีลักษณะนี้ที่ต้องไปว่ากันเป็นคดีในศาลที่อังกฤษ อาทิ กรณีของนายปิ่น จักกะพาก ซึ่งศาลอังกฤษมีคำพิพากษาว่าไม่ส่งตัวให้ไทย ทั้งนี้มีหลักเกณฑ์อยู่ว่าถ้าเป็นคดีการเมือง ตามหลักสากลเขาก็ไม่ส่งตัวให้ แต่กรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตนยืนยันได้ว่าเป็นคดีการทุจริตคอร์รัปชั่น มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้เป็นเรื่องของการเมือง แต่เงื่อนไขที่ว่าไม่เป็นคดีการเมืองนั้นยังไม่พอ เขาต้องไปดูว่าการกระทำความผิดแบบนี้เป็นความผิดที่เทียบเคียงได้หรือไม่ ถึงจะเข้าข่ายในการที่จะส่งตัวให้ไทย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเรื่องของกระบวนการของฝ่ายอังกฤษ
“ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เป็นหลักสากล คือเป็นไปตามสนธิสัญญา และในการปฏิบัติตามสนธิสัญญาต้องมีเงื่อนไขกระบวนการของแต่ละประเทศ ไม่ต่างกับเวลาที่เขาขอตัวคนจากเรากลับไป สมัยรัฐบาลผมมีกรณีวิคเตอร์ บูท ซึ่งสหรัฐฯและรัสเซียมีการขอมา เราต้องบอกว่าต้องผ่านกระบวนการของเราที่จะพิจารณา สุดท้ายอัยการดำเนินการไป ดังนั้นกรณีของคุณยิ่งลักษณ์ เราต้องรอทางการอังกฤษพิจารณาตัดสินใจ ขณะเดียวกันเป็นหน้าที่หน่วยงานของไทยที่ต้องให้ข้อมูลเขาให้ชัดเจนมากที่สุดว่าเหตุผลในการขอตัวนั้นมันคืออะไร ต้องแสดงให้เขาเห็นว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่จะยกเว้นจากการที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนมา ส่วนจะยืดเยื้อหรือไม่นั้นอยู่ที่กระบวนการของเขา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว