นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือถึงอังกฤษเพื่อขอส่งตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทย ว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดนปกติมี 2 รูปแบบ คือ 1.การมีสนธิสัญญา 2.ไม่มีสนธิสัญญา ทั้งนี้ไทยมีพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน และสนธิสัญญาด้วย ซึ่งการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาถ้าไม่มีสนธิสัญญาก็จะเป็นไปตามหลักการทางการทูตโดยการติดต่อ
นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า แปลกใจว่าเรื่องดังกล่าวทำไมถึงดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นผู้ออกหนังสือ ซึ่งตามพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้องทำโดยอัยการสูงสุดในฐานะผู้ประสานงานกลาง ซึ่งผู้ประสานงานกลางจะต้องส่งเรื่องนี้ไปยังผู้ประสานงานของอังกฤษ ไม่ใช่กระทรวงการต่างประเทศ และเมื่อเรื่องมาถึงก็จะพิจารณาเบื้องต้นว่าจะส่งตัวได้หรือไม่ อังกฤษก็ต้องดูว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ถ้าเป็นความผิดทางการเมืองก็คงไม่ส่ง รวมถึงถ้าเกี่ยวกับทหารก็จะไม่ส่งซึ่งก็ต้องแล้วแต่สนธิสัญญาด้วย
“ถ้าเขาเห็นว่าเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ก็ไม่ใช่ว่าจะส่งได้เลย เพราะต้องผ่านการไต่สวนของศาลและสามารถอุทธรณ์ได้ ทั้งนี้สนธิสัญญาของไทยและอังกฤษระบุชัดเจนต้องเข้าข่ายเรื่องใดถึงจะส่งตัวได้ แต่จากที่เห็นไม่ได้เข้าบัญชีตามที่กระทรวงการต่างประเทศแนบเอกสารมา ซึ่งหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยส่งไปก็ระบุว่าถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้ใช้ดุลยพินิจของอังกฤษว่าส่งตัวได้หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่อังกฤษจะส่งตัวมาด้วยเหตุผลหลายอย่าง” นายชัยเกษม กล่าว
นายชัยเกษม กล่าวอีกว่า อดีตส.ส.ที่บินไปพบน.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่ผิดเพราะไม่มีกฎหมายอะไรห้ามญาติ สนิท พี่น้อง คนรักใคร่กันพบกัน เห็นประธานกกต.ออกมาบอกว่าถ้าเป็นสมาชิกก็จะมีปัญหา แต่ตนมองว่าไม่ใช่เพราะอดีตส.ส.ไม่ได้ดำเนินการอะไรตามที่กฎหมายห้ามและไม่มีการครอบงำทางการเมือง