หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมรวบแล้ว! โจรงัดบ้าน 'พญ.คุณหญิงพรทิพย์​'

รวบแล้ว! โจรงัดบ้าน ‘พญ.คุณหญิงพรทิพย์​’

ที่ลานแถลงข่าว บช.น.​ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.พร้อมด้วย​ พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม,พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงศ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายลักทรัพย์บ้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ท้องที่ สน.บางชัน​ และสน.ท่าข้าม ร่วมกับ กก.สส.บก.น.9 จับกุมคดีฆ่าชิงทรัพย์ โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดเหตุคนร้ายบุกงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหงซอย 112 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. ท้องที่สน.บางชัน​ ซึ่งเป็นบ้านของพญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นคดีที่เป็นที่น่าสนใจของประชาชน

ต่อมาพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้สั่งการให้สืบสวนติดตามตัวคนร้ายและทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายคืนแก่ผู้เสียหาย​ โดยวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนร้าย คือ นายเอนก แก้วสอาด อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/4 ถนนรัชดาภิเษก​(ท่าพระ-ตากสิน) แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ จ.674/61 ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 จับกุมตัวได้ที่ หน้าร้านแมคโดนัล สาขาทิวลิป สแควร์ ถนนเพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลางคือ รถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ชท 5181 กทม. และ แหวนนพเก้า จำนวน 3 วง โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนีฯ”

ด้วยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 เวลาประมาณ 14.00 น.ได้เกิดเหตุคนร้ายลักลอบบุกรุกเข้าไปที่บ้านพักของผู้เสียหาย ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านสัมมากร โดย สน.บางชัน ได้จากสืบสวนพบว่าคนร้าย เป็นชาย อายุประมาณ 35-45 ปี สูงประมาณ 170 ซม. สวมเสื้อยืดคอกลม ลายขวางสีน้ำ สวมกางเกงผ้าสีดำ รองเท้าแตะ หลบหนีโดยใช้รถยนต์ โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชท 5181 กทม. ในการหลบหนี และสืบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวมีนายเอนก แก้วสอาด เป็นผู้ใช้งาน และมีหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ 21/2561 ลงวันที่ 17 มกราคม 2561 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง พื้นที่ สน.บางนา

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนายเอนก แก้วสอาด เจ้าของรถยนต์โตโยต้า ชท 5181 กทม. ได้โดยให้การยอมรับว่า ได้ร่วมกันกับนายสุข ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ เคยมีประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ไปลงมือก่อเหตุภายในหมู่บ้านสัมมากรจริง โดยตนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถไปส่งนายสุข และปล่อยให้นายสุข ลงไปก่อเหตุ หลังก่อเหตุเสร็จได้รับนายสุข ขึ้นรถ และไปแบ่งทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์ที่ห้องเช่า บริเวณคลองหลวงซอย 13 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน​ และกก.สส.บก.น.4 ร่วมกันนำข้อมูลคดีที่พบการก่อเหตุของคนร้ายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับคดีนี้นำมาวิเคราะห์เชื่อมโยงจนสามารถสืบทราบว่า นายสุข ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง คือ นายทองสุข แก้วหาวงษ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/3 หมู่8 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เคยมีประวัติคดีลักทรัพย์ และหลบหนีหมายจับ จำนวน 12 หมาย โดยมีประวัติร่วมกันก่อเหตุกับ น.ส.พัทธนันท์ อธิชัยจารุพงษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/21 หมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

จนกระทั่งในวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สามารถจับกุมตัวน.ส.พัทธนันท์ อธิชัยจารุพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.711/2561 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 ในความผิดข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกั้นตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือรับของโจร” ในขณะที่ น.ส.พัทธนันท์ กำลังลงจากรถยนต์ยี่ห้อ เมอซิเดส เบนซ์ สีน้ำตาล คันหมายเลขทะเบียน ศต 322 กทม. ที่บริเวณ หน้าอาคารชารีออท เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และสามารถจับกุมตัวนายทองสุข แก้วหาวงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.691/2561 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 ในความผิดข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกั้นตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี ” ที่บ้านเลขที่ 359/7 หมู่บ้านPMC 4 HOME ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และสามารถตรวจยึดของกลางได้จำนวน 154 รายการ เช่น นาฬิกาข้อมือ สร้อยคอ แหวน พระเครื่องเครื่องประดับต่างๆ กระเป๋าแบรนด์เนม ธนบัตรเก่าสะสม เป็นต้น

สอบถามนายทองสุขให้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะเลือกหมู่บ้านเก่าที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย และเชื่อว่าเจ้าของบ้านน่าจะมีทรัพย์สินจำนวนมากเก็บไว้ นายทองสุข จะชักชวนบุคคลที่สนิท ให้ขับขี่ยานพาหนะไปจอดส่งตนในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ และเมื่อก่อเหตุสำเร็จ จะนำทรัพย์สินไปแบ่งกัน โดยในส่วนทรัพย์สินของนายทองสุขได้รับ ก็จะนำไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและทรัพย์สินบางชิ้นมอบให้กับ น.ส.พัทธนันท์ เพื่อให้นำไปขายตามร้านต่างๆ โดยลงมือก่อเหตุในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด จำนวนหลายครั้ง โดยสามารถจดจำได้ว่า ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ภายในหมู่บ้านสัมมากร รวม 5 ครั้ง แต่สามารถได้ทรัพย์สินไปเพียง 2 ครั้ง และเมื่อประมาณปี 2558 -2559 ได้ขับรถยนต์โตโยต้าอัลติส สีดำ ทะเบียน 6 กฐ 8132 กทม.ไปลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ภายใน บ้านสองชั้น ใน อ.เมือง จ.ยโสธร โดยได้ทรัพย์สินมาเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 4 ใบนอกจากนี้การตรวจสอบชื่อของนายทองสุข แก้วหาวงษ์ พบว่ามีหมายจับ อีกจำนวน 12 หมาย

ทั้งนี้ นายทองสุข และ น.ส.พัทธนันท์ ได้ให้การว่า รับสารภาพว่า ทั้งสองได้หลบหนีการประกันตัวชั้นศาล ในคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์ ซี่งอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป​ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนผู้เสียหาย ที่เคยถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะนี้ สามารถติดต่อขอตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไป ได้ที่ สน.บางชัน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2518-1510-3

อีกคดีฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้ามพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9​ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคือนายมินท์ จอ (MYINT KTAW) อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมาร์​ ข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ จนเป็นเหตุให้เจ้าทุกข์ถึงแก่ความตาย” พร้อมด้วยของกลางคือ อาวุธมีดปลอกผลไม้ 1 เล่ม​ ธนบัตรเงินสด จำนวน 5,000 บาท​ กางเกงยีนส์สีดำ,เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ,เข็มขัดหนังสีดำ และรองเท้าแตะหูคีบ​ (รวมใส่วันเกิดเหตุ)

โดยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดทำร้าย ชาวเมียนม่า จนถึงแก่ความตาย และลักเอาเงินสดจำนวน 18,000 บาทไป เหตุเกิดบริเวณ ห้องพักไม่มีชื่อและเลขที่ ชั้นที่ 3 ห้องข้างในสุดทางขวา ซ.บางขุนเทียน 10 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 61 เวลาประมาณ 16.00–19.30 น. จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จนทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.ซิน มา วิน อายุ 31 ปี สัญชาติ พม่า

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากเหตุดังกล่าวเป็นเหตุอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายมินท์ จอ (Myint Kyaw) ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นสามีของผู้ที่พักอาศัยที่อยู่ข้างห้องผู้ตาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบตัว นายมินท์ จอ (Myint Kyaw) ที่บริเวณ ชั้นที่ 4​ อาคาร 23 เคหะเอื้ออาทร ท่าจีน ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี​ พร้อมยึดของกลางดังกล่าวข้างต้น เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 02.30 น.

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าตนได้ไปขอยืมเงิน น.ส.ซิน มา วิน สัญชาติ พม่า อายุ 3 จำนวน 5,000 บาท แต่ น.ส.ซิน มา วิน ไม่ยินยอมให้ จึงได้มีปากเสียงกัน จากนั้น น.ส.ซิน มา วิน ได้ต่อว่าตน ตนจึงโมโห จึงได้หยิบมีดทำครัว ในห้องของ น.ส.ซิน มา วิน มาแทงที่บริเวณลำคอจำนวน 3 ครั้ง ทำให้ น.ส.ซิน มา วิน เสียชีวิต จากนั้นตนกลัวการกระทำผิด จึงได้หลบหนีไป


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img