“ธรรมนัส”แจงที่ดิน ส.ป.ก.- อช.เขาใหญ่ไม่ทับซ้อน

288

รมว.ธรรมนัส แจงกรมแผนที่ทหารชี้ ที่ดิน ส.ป.ก.- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไม่เป็นพื้นที่ทับซ้อน และอยู่นอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมจัดทำพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างพื้นที่ ส.ป.ก. พื้นที่อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยกันพื้นที่ดังกล่าวให้จัดทำเป็นป่าในเขตปฏิรูปที่ดิน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ แถลงกรณีพิพาทพื้นที่ทับซ้อนในที่ดิน ส.ป.ก.- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายรมว.เกษตรฯ ว่า กรมแผนที่ทหาร ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รายงานผลการตรวจสอบแนวเขตที่ดินทับซ้อนดังกล่าว มีผลการตรวจสอบให้แปลงปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก. ไม่ทับซ้อน และอยู่นอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนได้ลงนามคำสั่งถึงเลขาฯส.ป.ก. ลงวันที่ 23 ก.พ.67 เรื่อง นโยบายการดำเนินการบริเวณเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) กับเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้การดำเนินงานของส.ป.ก. เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้การบริหารจัดการพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน เหมาะสมตามหลักนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และบริบทความจริงของสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยได้มอบนโยบายและขอให้ ส.ป.ก. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจโดยเคร่งครัดดังต่อไปนี้ 1) ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปฯบริเวณพื้นที่ตามแนวเขตที่ติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และพื้นที่ต่อเนื่อง ว่าเป็นการจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด 2) จัดทำพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างพื้นที่ ส.ป.ก. พื้นที่อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยกันพื้นที่ดังกล่าวให้จัดทำเป็นป่าในเขตปฏิรูปที่ดิน 3) ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณรอยต่อกับพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินของรัฐอื่นๆ โดยให้ดำเนินการทั่วทั้งประเทศ ว่ามีกรณีจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด หากพบว่าการจัดที่ดินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องโดยเคร่งครัด และ 4) เตรียมการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรหรีอที่ดินว่างเปล่ารองรับเกษตรกรกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีที่ดินทำกินโดยให้จัดสรรที่ดินให้กับกลุ่มเหล่านี้ตามระเบียบ ส.ป.ก. ต่อไป  โดยให้ยึดถือตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด



“จากกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าทั้ง 2 หน่วยงานไม่มีใครผิดใครถูก เนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กรมแผนที่ทหาร เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำโครงการ One Map เพื่อตรวจสอบและป้องกันการเกิดข้อพิพาทอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต และในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมส่อผิดกฎหมายในการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. พร้อมทั้งมอบที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หากตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายจะดำเนินคดีตามกฎหมายมาตรา 157 และเรื่องวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก. รอบเขาใหญ่ทั้งหมดว่ามีการจัดสรรที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าเป็นรีสอร์ทหรือโรงแรมจะยึดคืน ซึ่งได้ให้สำรวจทั่วประเทศ หากพื้นที่ยังไม่ได้จัดสรรให้เกษตรกร ทั้ง 2 หน่วยงานมีแนวทางจะทำเป็นป่าชุมชน หากพื้นที่ใดทำผิดวัตถุประสงค์ จะทำการเพิกถอนต่อไป” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้ประชุมมอบนโยบายแก่ปฏิรูปที่ดินทั้ง 72 จังหวัด โดยแนวทางการขับเคลื่อนงานหลังจากนี้ ทั้ง 2 หน่วยงานจะจับมือกันพิทักษ์ป่าและพื้นที่อุทยานด้วยกัน และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่แสดงความกล้าหาญปกป้องผืนแผ่นดินไทย รวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ในการปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อจัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับพี่น้องเกษตรกร

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #สปก #ธรรมนัส #ที่ดินเขาใหญ่