เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.1 บก.สส.ฯ บช.น., ร.ต.ต.เศกสรรค์ สุทธิโกมินทร์, ร.ต.ต.ประสงค์ คงเพชร์
รอง สว.กก.สส. 1 บก.สส.บช.น., พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.สส.1 บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันจับกุมตัว
น.ส.ภัทราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นซึ่งได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” สถานที่จับกุม ด้านหน้าคอนโด ซ.รามคําแหง43/1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ คือ ผู้ต้องหาจะท่องราตรียามค่ำคืนโดยตระเวนหาเหยื่อตามสถานบันเทิงในย่าน กทม. เมื่อได้พบเจอกับผู้เสียหายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และมีการแลกเปลี่ยนไอดีไลน์กัน โดยผู้ต้องหาได้นัดพบเจอผู้เสียหายที่ห้องของผู้เสียหายโดยทำทีว่าจะขอเข้าพักค้างคืน เมื่อสบโอกาสในระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำและเผลอจึงได้นำเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป โดยได้สิ่งของมีค่าไป ดังนี้ สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 6 สลึง และพระจำนวน 1 องค์, แหวนทอง จำนวน 1 วง น้ำหนักประมาณ 2 สลึง, บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ และใช้บัตรกดเงินออกมาได้อีกจำนวน 3,700 บาท (สามพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
จากการสอบปากคำพบว่ามีการกระทำในลักษณะนี้อีกจำนวนหลายครั้ง ได้เงินและของมีค่าประมาณ ครั้งละ 20,000-40,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แต่มักจะเกิดความอับอาย ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด เพราะเกรงจะเป็นข่าวและมีผลกระทบต่อครอบครัว จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวเตือนนักเที่ยวกลางคืน ชายขี้เหงา ให้ระมัดระวังสาวหน้าตาดี จะเข้ามาตีสนิทพูดคุยให้เหยื่อที่เป็นเป้าหมายได้ตายใจและจะไม่มีการลงมือในทันที แต่จะแลกเบอร์โทร ไลน์ พูดคุยและนัดเจอกันในภายหลัง เมื่อมีการนัดเจอและพูดคุยกันแล้ว ก็จะขอไปนอนด้วยอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ฉกเอาทรัพย์สินหายไป หรือบางรายอาจจะโดนมอมยา รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรุ่งเช้า พบว่าทรัพย์สินหายไปแล้ว ขอเตือนสตินักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแสงสียามราตรีคงต้องระมัดระวังภัยจากเหล่ามิจฉาชีพที่มุ่งหวังในทรัพย์สิน แต่ละรายจะใช้วิธีการไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องระมัดระวังไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า หรือเชื่อคนง่ายเกินไป