เมื่อ 31 ม.ค.67 เวลา 1010 ที่อาคารรัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้ความเห็นกรณีการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องนโยบายแก้ไข ม.112 ของพรรคก้าวไกล เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่
นายธนาธร กล่าวว่า ตนเองไม่มีความคาดหวังใดต่อคำวินิจฉัย เดี๋ยวรอฟังกันดู แต่เชื่อว่าวันนี้พรรคก้าวไกลจะไม่ถูกยุบ เพราะอย่างไรคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ไปไม่ถึงจุดนั้นอยู่แล้ว ส่วนกังวลหรือไม่ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจส่งผลต่อการผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายธนาธร ตอบว่า อยากให้กลับมายืนในหลักการให้มั่น สภาผู้แทนราษฎรคือฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นผู้บัญญัติกฎหมาย กลับมายืนในหลักการนี้ให้มั่นๆ
จากนั้น นายธนาธร ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สัดส่วนพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมเป็นนัดแรกว่า
เป้าหมายแรกของคณะกรรมาธิการชุดนี้คือศึกษาว่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารของกองทัพที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์มีอะไรบ้าง และศึกษาแนวทางการถ่ายโอนว่ามีทรัพย์สินส่วนใดสามารถโอนกลับเข้ามาสู่คลังได้ ตนเชื่อว่า ปัจจุบันกองทัพมีภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศอยู่มาก เช่น สนามกอล์ฟ โรงแรม ศูนย์ประชุม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจหลักของกองทัพ การโอนรายได้เหล่านี้กลับเข้ามาสู่คลังน่าจะดีกว่าสำหรับประเทศ ทั้งนี้ ต้องใช้ที่ประชุมแบบนี้สนทนากันเพื่อทางออกสำหรับประเทศ ประวัติศาสตร์ในอดีตกองทัพไม่มีงบประมาณ จึงต้องขอทรัพย์สินบางส่วนไปบริหารเองเพื่อจัดเป็นสวัสดิการให้กับทหาร แต่เวลาล่วงเลยมานานแล้ว กองทัพสามารถของบประมาณได้เหมือนกระทรวงอื่นๆ ผ่านกลไกสภา ส่วนการพาณิชย์ทั้งหมดของกองทัพ ก็ควรโอนกลับมาสู่คลังให้เหมาะสม คิดว่าไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าการกลับเข้ามาทำหน้าที่ครั้งนี้ เป็นการปูทางกลับเข้ามาสู่การเมืองอีกครั้ง นายธนาธร กล่าวปฏิเสธ พร้อมบอกว่า พรรคก้าวไกลติดตามเรื่องนี้มานาน จึงอยากให้ตนมาช่วยในกรรมาธิการชุดนี้ ซึ่งตนเองก็ยินดี