ครอบครัวเด็ก ปวช. ขอ “หมออ๋อง” ช่วยสอบ ลูกจมน้ำในค่ายลูกเสือ

299

วันที่ 10 ม.ค. 67 เวลา 14.00 น. ณ จุดรับยื่นหนังสือ  ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา  นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง รับยื่นหนังสือจากนายอานนท์ หอมผา บิดาของนักเรียนระดับชั้น ปวช. ปีที่ 3 ที่เสียชีวิต ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีบุตรเสียชีวิตด้วยการจมน้ำจากการไปค่ายปัจฉิมนิเทศ นักเรียนระดับชั้น ปวช. ปีที่ 3 ของวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ที่ค่ายลูกเสือ จ.สระบุรี

โดยหนังสือระบุว่า สืบเนื่องจากครอบครัวผู้สูญเสียได้ร้องเรียนไปยังวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งที่ได้จัดค่ายปัจฉิมนิเทศที่ค่ายลูกเสือหัตถวุฒิ แคมป์ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 14 พ.ย.66 เป็นเหตุทำให้บุตรชายที่เข้าร่วมกิจกรรมต้องเสียชีวิตจากการจมน้ำ ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวมีผู้บริหารของวิทยาลัยเป็นผู้อนุมัติโครงการ ครอบครัวมีมีความกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากว่าวิทยาลัยฯ มีการปกปิดหลักฐาน ข้อมูล ตลอดจนแทรกแซง ข่มขู่ การให้ข้อมูลของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ อีกทั้งทางวิทยาลัยฯ ไม่มีการติดต่อกับครอบครัว เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวหรือช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวอย่างสมเหตุสมผลแต่อย่างใด

ประกอบกับมีข้าราชการระดับผู้บริหารภายใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในลักษณะที่ไม่ให้เกียรติครอบครัวของผู้สูญเสีย จนกระทั่งครอบครัวได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อวิทยาลัยฯ และได้มีการไกล่เกลี่ยแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ อีกทั้งทางฝ่ายวิทยาลัยฯ ได้กล่าววาจาเป็นการทำร้ายจิตใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย โดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น และไม่มีการชดเชยเยียวยาต่อการสูญเสียอย่างสมเหตุสมผลอีกด้วย 

หนังสือระบุข้อเรียกร้องต่อคณะ กมธ. ดังนี้

1) ขอให้คณะ กมธ. เป็นคนกลางในการเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทุกฝ่าย มาให้ข้อมูล หาข้อเท็จจริงร่วมกัน รวมถึงเรียกตรวจสอบเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวนี้ทั้งหมดเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด

2) ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์และเหตุแห่งคดีอย่างละเอียด ตลอดจนหาแนวทางป้องกันการแทรกแซงอันเป็นการปกปิดข้อมูล ข้อเท็จจริง และป้องกันการมิให้ผู้มีอำนาจเข้าไปทำลายหรือยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น เพื่อให้การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นกรณีตัวอย่าง อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

3) ขอให้มีการพิจารณา กฎ ระเบียบ คำสั่ง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกเลิกกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการสูญเสีย เช่น กิจกรรมทางน้ำ กิจกรรมในที่สูง กิจกรรมในที่อันตรายและสกปรก และกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีความเสียงต่อชีวิต จิตใจ  และยกเลิกกิจกรรมอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกรูปแบบของสถานศึกษาทั้งหมด เช่น การลงโทษทางวินัยแบบทหาร การบังคับขู่เข็ญใจ การปฏิบัติการทางจิตวิทยา

4) ขอให้ร่างหรือแก้ไข กฎ ระเบียบ คำสั่ง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมของสถานศึกษาเพิ่มเติม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ดังนั้น จึงขอให้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ดำเนินการช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาครอบครัวยังไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด การจัดค่ายปัจฉิมนิเทศและทำให้เกิดการสูญเสียทำให้เป็นปัญหาเรื้อรังอยู่ในสังคมไทย  ดังนั้น ตนจะนำเรื่องดังกล่าวส่งต่อไปยังคณะ กมธ. การศึกษา เพื่อขอเรียกร้องให้พิจารณาเพิ่มระเบียบต่าง ๆ  ที่เกี่ยวข้อง  และส่งไปยังคณะ กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน  เพื่อปกป้องสิทธิครอบครัวของผู้สูญเสีย ต่อไป

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #หมออ๋อง #ปดิพัทธ์สันติธาดา #จมน้ำค่ายลูกเสือ