นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น 1,220 คน

161

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ เน้นย้ำให้เด็กยึดมั่นรู้รักสามัคคี มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และต่อประเทศชาติ  โดยเมื่อวันที่10 มกราคม 2567 เวลา 09.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่ได้รับการคัดเลือกจากทุกสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 1,220 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับฟังโอวาทจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า รู้สึกปลื้มใจที่เด็กไทยทุกคน มีความรู้ ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และนำชื่อเสียงที่น่าภาคภูมิมาสู่ประเทศชาติ  พร้อมชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันดำเนินงานและให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต  ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนของชาติ และให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน โดยสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้มีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิต รวมทั้งการปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความภูมิใจในชาติ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า  สิ่งสำคัญเด็กและเยาวชนทุกคนต้องมีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดา มารดา ผู้มีพระคุณ และประเทศชาติ มีความรู้รักสามัคคี รักชาติ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัยอันดี และอยู่ในกรอบของกฎหมาย รวมทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ควบคู่คุณธรรม ตลอดจนความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือสังคม และประเทศชาติ สอดรับกับคำขวัญวันเด็กในปีนี้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”

นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ รวมถึงสมาชิกประเภททีม ทั้ง 1,220 คน ที่ได้รับรางวัลว่า เป็นผลจากการที่ทุกคนมีความขยัน หมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนพยายามฝึกฝนให้มีทักษะด้านต่าง ๆ จนเกิดความสำเร็จ สร้างคุณประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ อีกทั้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งการศึกษา และทำในสิ่งที่ตนเองได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งการได้รับรางวัลครั้งนี้ถือเป็นเกียรติประวัติที่สง่างามแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชนรุ่นต่อไป

จากนั้น เด็กหญิงพิมพ์นารา คุปต์อัครภิญโญ จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี กรุงเทพมหานคร และเด็กชายกริษฐ์พล ปราสาททองโอสถ เยาวชนดีเด่น ด้านทักษะฝีมือ จากโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา มีนบุรี ได้เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติรับมอบของที่ระลึกจากนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง 

สำหรับปีนี้ เด็กและเยาวชนดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนราชการ 17 หน่วยงาน ได้พิจารณาคัดเลือกจากเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด มีความมานะอดทน หาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง กตัญญูช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ประกอบด้วยเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ ด้านกีฬาและนันทนาการ ด้านศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรม จำนวน 604 ราย  เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 279 ราย และประเภททีม จำนวน 337 ราย ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้กระทำความดีในด้านต่าง ๆ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนเอง ตลอดจนปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม มีความสามัคคี เป็นกำลังสำคัญของชาติ ตามคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2567 ที่ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”   ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี