”ผบก.ตม.4“แถลงรวบ 2 สาวเจ้าหน้าที่โรงจำนำตัวแสบ ลักของตู้เซฟโรงรับจำนำ วนให้เครือข่ายกลับมาจำนำซ้ำ หลังถูกกดดันหนีซุกลาว

16407

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4 เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ภายใต้การอำนวยการของ,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., , พ.ต.อ.สิทธิ์ศิริ กังวาลกุล รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ธียาณพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จว.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมบุคคลตามหมายจับคดีสำคัญ “ตม.หนองคาย เปิดข้อมูลสอบสวนเพิ่มเติม เคสรวบอดีต พนง.รักษาทรัพย์โรงรับจำนำเผยมูลค่าความเสียหายจริง 6.5 ล้านบาท ไม่ใช่ 170 ล้านบาทตามรายงานข่าวครั้งแรก เผยกลโกงลักทองของตนเองที่นำมาจำนำแล้วจ้างหน้าม้ากลับมาเวียนจำนำ” เมื่อประมาณต้นเดือน ธันวาคม 2566 พงส.สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งความจากบริษัทโรงรับจำนำเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.อ้อย สัญชาติไทย (นามสมมุติ และ น.ส.ทิพย์ สัญชาติไทย (นามสมมุติ) พนักงานของบริษัทดังกล่าว ที่มีหน้าที่ในการก็บรักษาของรับจำนำ ตรวจพบว่าพนักงานทั้งสองราย ได้นำทองคำของตนเองมาจำนำ แล้วลักเอาทองของตนเองที่ต้องเก็บไว้ในตู้เซฟของโรงรับจำนำออกไป จากนั้นได้จ้างหน้าม้าเข้ามาเวียนนำทองเดิมเข้าไปจำนำ กับโรงรับจำนำอีกหลายครั้ง โดยให้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 -2,000 บาท แล้วนำเงินที่ได้มาเข้าบัญชีของตนเองเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว และเล่นการพนัน สร้างความเสียหาย ให้กับโรงรับจำนำมูลค่ากว่า 6.5 ล้านบาท ต่อมา น.ส.ทิพย์ ฯ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ส่วน นางสาวอ้อยฯ ได้หลบหนี ศาลจังหวัดนนทบุรีได้อนุมัติหมายจับในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ที่ เป็นของนายจ้าง” ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ชุดสืบสวน ภ.1 ได้สืบสวนติดตามจับกุม จนทราบว่า น.ส.อ้อย ฯ ได้หลบหนีออกนอกประเทศไทยไปอาศัยอยู่ที่ประเทศลาว จึงประสานมายัง ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย เพื่อประสานกับทางการสปป.ลาว เพื่อกดดันให้กลับมามอบตัว พร้อมกับเฝ้าระวังตามแนวชายแดนป้องกันการลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ  จนกระทั่ง วันที่ 3 ม.ค.2567 เวลาประมาณ 12.30 น. น.ส.อ้อย ฯ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ได้เดินทางกลับเข้ามาทางด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทย – ลาว จ.หนองคาย ร้อยเวรงานตรวจบุคคลและพาหนะ พบตัว น.ส.อ้อย ฯ บุคคลตามหมายจับ กำลังเดินทางกลับเข้าประเทศไทย จึงได้ประสานชุดสืบสวน ตม.จว. หนองคาย ทำการจับกุมตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น


 
เบื้องต้น น.ส.อ้อย ฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักทรัพย์ของโรงรับจำนำ ตามแผนประทุษกรรมดังกล่าวจริง โดยเงินที่ได้มาได้นำไปเล่นการพนันออนไลน์ ส่วนค่าความเสียหาย เมื่อตรวจสอบกับ พงส.เจ้าของคดี พบว่าการกระทำผิดของ น.ส. อ้อยฯ ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมานี้ ก่อให้เกิดความเสียหายทางคดีกว่า 6.5 ล้านบาท จนท. จึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส. สภ. ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดกรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา  เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ดจว.นนทบุรี 1 1120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง “ผบก.ตม.4 กล่าว“

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์